เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายนคร มาฉิม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคปชป. โพสต์ข้อความพาดพิงว่ามีการสมคบเพื่อล้มพรรคไทยรักไทย(ทรท.)และพรรคเพื่อไทย(พท.) ว่า เนื้อหาที่นายนครพาดพิงพรรคปชป.นั้นใช้คำว่า“พวกเรา” ทำให้คนอ่านจำนวนมากเข้าใจว่าหมายถึงพรรคปชป. ดังนั้นถ้าหมายถึงพรรคปชป. และข้อความทั้งหลายเป็นเท็จ ก็สร้างความเสียหายกับพรรคปชป.และหลายฝ่าย เพราะฉะนั้นคณะทำงานฝ่ายกฎหมายของพรรคเตรียมจะยื่นฟ้องนายนครในข้อหาหมิ่นประมาท ขณะเดียวกันมองว่าการกระทำตรงนี้น่าจะเป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 ด้วย อย่างไรก็ตาม นายนครได้โพสต์เฟซบุ๊กครั้งล่าสุดว่าเหมือนจะเป็นการเปิดสงครามระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ เริ่มอีกครั้ง ยินดีต้อนรับสู่สมรภูมิ คิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับประชาธิปไตยกับเผด็จการ แต่เกี่ยวกับเรื่องความจริงกับความเท็จ เมื่อเขากล่าวเท็จและพาดพิงถึงคนอื่นให้เกิดความเสียหาย ต้องรับผิดชอบกับคำพูดนั้นเท่านั้นเอง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการที่นายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคปชป. เห็นว่าพรรคอย่าไปฟ้องนายนครให้เป็นคดีรกศาลนั้น ไม่มีใครอยากจะไปขึ้นศาล แต่ก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องชื่อเสียง เพราะถ้าไม่ทำอะไร ก็จะมีคนบอกว่าแสดงว่าที่เขาพูดเป็นเรื่องจริง ทั้งนี้ความคิดเห็นที่แตกต่างนี้เป็นเรื่องปกติ แต่อะไรที่เป็นข้อเท็จจริงก็ต้องเป็นข้อเท็จจริง การมากล่าวหาว่า หลายฝ่ายมีการสมคบกันและนำไปสู่ทั้งเรื่องของการตัดสินคดีหรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอะไร ไม่มีมูลความจริงนั้นเป็นเรื่องเท็จ และทำให้เกิดความเสียหายกับหลายฝ่าย
“การไปยื่นฟ้องเมื่อใดนั้นอยู่ที่ฝ่ายกฎหมายยกร่างคำฟ้องต่างๆ ในข่าวขอเวลา 1 สัปดาห์ เรื่องที่ไปขึ้นศาลนั้นต้องเป็นเรื่องที่จะต้องปกป้องสิทธิ์กัน ผมไม่อยากเสียเวลาเพิ่มเติมในการจะตอบโต้อะไรกับใคร และไม่ต้องการให้มีการไปบิดอีกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องการต่อสู้ระหว่างอะไร ใครกับใคร การแข่งขันทางการเมืองเป็นเรื่องปกติ แต่การใส่ร้ายหรือเอาความเท็จมาพูดนี้เป็นสิ่งที่เมื่อเกิดความเสียหายแล้ว ผู้ได้รับความเสียหายต้องปกป้องสิทธิ์ ผมมองว่าเป็นบรรทัดฐานทางการเมืองที่ไม่ดี ถ้าเราบอกว่าใครอยากจะกล่าวเท็จอะไรอย่างไรก็ได้”นายอภิสิทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่าจังหวะเวลาของการเกิดเรื่องนี้ต้องวิเคราะห์อะไรลึกๆในเรื่องการเมืองหรือไม่ หัวหน้าพรรคปชป. กล่าวว่า ไม่สนใจ และไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร จากเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับนายนคร กับจังหวะเวลาทางการเมืองที่ใกล้จะมีการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องธรรมดา ใครจะย้ายพรรคหรือจะทำอะไร ไม่ได้มีปัญหา แต่ไม่ควรเอาความเท็จมาใส่ร้ายคนอื่น ทั้งนี้ ช่วงที่มีการเลือกตั้ง ในกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งระบุว่าการใส่ร้ายแล้วไปส่งผลกระทบกับนักการเมือง หรือพรรคการเมืองอื่นเป็นการทำผิดกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ถ้าเราไม่ใส่ใจเรื่องนี้ ก็เท่ากับเราก็บอกว่าถ้าอย่างนั้นการเมืองอะไรก็ได้
