ไพศาล เตือน คนเอาที่ดินรถไฟมักกะสัน ให้เจ้าสัวหาประโยชน์ ระวังจะเดือดร้อน

วันนี้ (7 ส.ค.) นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กแสดงความเห็นกรณีปัญหาการจัดการที่ดินการรถไฟมักกะสัน โดยระบุว่า

เรื่องที่ดินรถไฟมักกะสันที่ต้องเข้าใจให้ตรงกัน 1.ที่ดินรถไฟมักกะสันเป็นที่ดินที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 พระราชทานไว้สำหรับให้การรถไฟฯใช้หาประโยชน์เพื่อนำรายได้บำรุงรถไฟ จะได้คิดค่าโดยสารกับราษฎรไม่แพงนัก ไม่ใช่ที่พระราชทานสำหรับให้เจ้าสัวไปหาประโยชน์ ที่ดินแปลงนี้จึงศักดิ์สิทธิ์ ใครคิดล้มพระบรมราชเจตนาคงมีความฉิบหายวายวอดเป็นเบื้องหน้าอย่าได้สงสัยเลย

2.ที่ดินมักกะสันนั้นปัจจุบันเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นที่ดินสำหรับใช้ในกิจการรถไฟและแหล่งน้ำของโครงการตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 มีเนื้อที่รวมกันประมาณ 700 ไร่ ถ้ายกพื้นที่ไข่แดง แถมพกไข่ขาว จะเหลือค่าลดลงเพียงใด อย่างนี้แล้วยังคิดที่จะเอาไปแถมให้กับเอกชนอีกหรือ

3.มีความพยายามหลายครั้งที่จะโอนที่ดินรถไฟมักกะสันนี้ไปให้หน่วยงานของกระทรวงการคลัง โดยตีราคาแปดหมื่นล้านบาทบ้าง หกหมื่นล้านบาทบ้าง มีผู้คัดค้านจำนวนมาก และทุกครั้งนายกรัฐมนตรีได้สั่งระงับ จึงรอดปากเหยี่ยวปากกามาได้

Advertisement

4.ที่ดินรถไฟมักกะสันเป็นที่ดินแปลงที่สวยที่สุด ดีที่สุด และมีราคามากที่สุดของการรถไฟฯ สามารถจัดประโยชน์ได้ไม่น้อยกว่า 3 แสนล้านถึง 5 แสนล้านบาท แต่กลับจะเอาไปแถม อ้างว่าเพื่อจูงใจให้กับเจ้าสัวที่จะลงทุนในโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งมีมูลค่าโครงการเพียง 2 แสนล้านบาท

5.ในวงเงิน 2 แสนล้านบาทนั้น เอกชนลงทุนเพียง 120,000 ล้านบาท รัฐบาลต้องลงทุนถึง 8 หมื่นล้านบาทแล้ว หากรวมมูลค่าที่ดินรถไฟมักกะสัน 300,000 ล้านบาท ก็เท่ากับรัฐลงทุนถึง 380,000 ล้านบาท ยังไม่รวมสิทธิประโยชน์ในการบริหารจัดการสนามบินอู่ตะเภา และเส้นทางรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งน่าจะเป็นมูลค่าได้ไม่น้อยกว่า 250,000 ล้านบาท เท่ากับเอกชนลงทุนเพียงไม่ถึง 20% ของรัฐแต่กลายเป็นเจ้าของโครงการ 8 แสนล้าน

เมื่อเข้าใจตรงกันแล้วยังจะดึงดันเดินหน้าต่อไปก็เชิญตามสบาย ผมได้แค่เตือนไว้เพื่อไม่ให้ใครต่อใครต้องเดือดร้อน หรือต้องเป็นสัมภเวสีในภายหลัง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image