ประธาน กกต.เล่นบทเดือด
พลิกจากบุคลิกเคร่งขรึม ยึดหลักว่า หากพูดอะไรออกไป ก็ไม่ต่าง คำตัดสินเรื่องที่กำลังพูดถึงอยู่นั้น เนื่องจากเป็นผู้พิพากษามาก่อน จึงประหยัดถ้อยประหยัดคำ
แต่ครั้งนี้คงอดรนทนไม่ได้ ออกโรงตอบโต้ ปม กกต.คัดเลือก-ตั้งตรวจการเลือกตั้ง 616 คน ที่ถูกกล่าวหา รีบร้อนผิดมารยาท
ถึงขั้นที่ สนช.ตั้งแท่นรื้อ แก้ พ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.เพื่อตั้งใหม่อยู่ในขณะนี้
ตอกกลับ สนช.ต้องโทษตัวเอง ออกกฎหมายไม่รัดกุม ขัดต่อหลักนิติธรรม นิติรัฐ นิติประเพณี ขาดความเสมอภาค ไม่เท่าเทียมกับ พ.ร.ป.ฉบับอื่นๆ
จวกนิ่มๆ สนช.รู้แก่ใจ ไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ
เกิด 8 กุมภาพันธ์ 2492 นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาบัตรการป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 45 วุฒิบัตร บ.ย.ส. รุ่นที่ 10, ประกาศนียบัตร วตท.รุ่นที่ 5, ป.ป.ร. รุ่นที่ 14
มีตำแหน่งเป็น ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลฎีกา ก่อนมานั่งเก้าอี้ กกต.
และได้รับการโหวตเลือกจากกรรมการการเลือกตั้ง ให้ดำรงตำแหน่งประธาน
นั่งเก้าอี้ 13 ธันวาคม 2556-ปัจจุบัน
นับถอยหลังพ้นจากตำแหน่งเมื่อการแต่งตั้ง กกต.ชุดใหม่สมบูรณ์ เนื่องจาก พ.ร.ป.กกต. เขียนเซตซีโร่ โละทิ้งยกกระบิ ขณะที่องค์กรอิสระอื่นอย่าง ป.ป.ช.ได้นั่งเก้าอี้ต่อ
ยันการคัดเลือกผู้ตรวจฯก็ทำตามหน้าที่
ไม่จำเป็นต้องวางตัว 616 ผู้ตรวจฯ เพราะไม่คิดลงเล่นการเมือง แต่อยากอยู่อย่างสงบหลังพ้นตำแหน่ง
