‘นิกร’ ชี้ 36 สนช.ดันแก้พ.ร.ป.กกต.เสียไม่คุ้มได้ ระวังเจอครหากลับ ผู้ตรวจฯใหม่เป็นคนของคสช.

“นิกร” ชี้ 36 สนช. ดันแก้พ.ร.ป.กกต.เสียมากกว่าได้ -ไม่พ้นคำนินทาถูกสั่งการ ระวัง คนไม่เชื่อกระบวนการลต. เพราะครหาผู้ตรวจฯใหม่เป็นคนของคสช.

วันนี้ (11 ส.ค.) นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ 36 สนช.ผลักดันร่างแก้ไขพ.ร.ป.ว่าด้วยกกต.เพื่อโละผู้ตรวจการเลือกตั้งทิ้งว่า ถือเป็นเรื่องที่ไม่ชัดเจนมากอีกเรื่องที่เสนอมาโดยสนช. เพราะกลไกของผู้ตรวจการเลือกตั้งไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะข้อครหาที่ว่า เข้าข้าง มีสายสัมพันธ์ในพื้นที่ก็ถูกแก้ได้ด้วยกลไกที่กฏหมายออกแบบไว้ โดยให้มีการจับฉลากไขว้กันให้ไปทำหน้าที่ในจังหวัดอื่นอยู่แล้ว ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่า ใครจะได้ไปทำหน้าที่ที่ไหน ขณะที่ กรณีที่กกต.ชุดปัจจุบันแต่งตั้ง 616 ผู้ตรวจการเลือกตั้งก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน เพราะแม้การตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งจะเป็นงานตามแผนงานที่วางไว้สำหรับกกต.ชุดใหม่ แต่เพราะสนช.โหวตล้มกกต.ชุดแรก ทำให้ไม่สามารถส่งมอบกกต.ชุดใหม่ตามแผนงานที่เขาวางไว้ทัน ภายหลังจึงมีการ ม.44 ให้กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่ต่อไป ตอนนั้นสนช.เองก็พูดว่า ไร้ปัญหา กกต.ชุดนี้สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ในระหว่างที่รอกกต.ชุดใหม่กกต.ชุดนี้จึงได้ออกระเบียบเท่าที่จำเป็นตามแผนงาน การแต่งผู้ตรวจการเลือกตั้งก็เป็น 1 เรื่อง ดังนั้น นี่จึงเกิดเป็นคำถามลับลมคำในย้อนกลับไปยังสนช.ในฐานะต้นตอของปัญหาว่า เหตุนี้จะทำให้กระทบกับโรดแมปเลือกตั้งหรือไม่

“ต้องยอมรับว่า วันนี้เวลาไปสู่โรดแมปเลือกตั้งก็ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ถ้าไม่มีผู้ตรวจการเลือกตั้งก็จัดเลือกตั้งไม่ได้ ในเมื่อเหตุผลไม่ชัดเจน ผมคิดว่า อย่าแก้เลยดีกว่า เพราะจะเป็นอีกเรื่องที่เสียไม่คุ้มได้ และเชื่อว่า กรณีนี้จะเกิดปัญหาแน่ เพราะพ.ร.ป.ว่าด้วย กกต.เป็นกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญ การแก้ไขปัญหาในอนาคตไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะมีขั้นตอนมากมาย ถ้าตรงกลางระหว่างกลับเกิดปัญหาขึ้น แล้วจะโทษใคร อย่าให้เหมือนกับตอนที่สนช.ยืดการบังคับใช้ร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ออกเป็น 90 วันอีกเลย ที่แรกเริ่มบอกไม่กระทบโรดแมป แต่พอเอาเข้าจริงก็กระทบเต็มๆ ดังนัน หากสนช.เอาจริงขยับแน่ โรดแมปปลายเดือกุมภาพันธ์ 2562 ที่รับรู้ ก็เป็นไปไม่ได้ อาจจะเลื่อนไปเป็นเมษายน-พฤษภาคม 2562” นายนิกร กล่าว

นายนิกร กล่าวว่า นอกจากกระทบกับโรดแมปแล้ว ตนคิดว่า สนช.ในฐานะนิติบัญญัติอาจถูกมองว่า ไปก้าวก่ายงานขององค์กรอิสระมากเกินไป และที่สำคัญที่สุด ความบ่งพร่องของสนช.เอง อาจจะไปกระทบกับแม่น้ำสายอื่น เพราะจะถูกมองว่า สนช.ถูกสั่งการ ดังนั้น เมื่อน้ำกระเพื่อมหรือขุ่นสายเดียวก็จะมีผลไปยังแม่น้ำสายอื่นด้วย เพราะเชื่อมต่อกันอยู่ หากได้ผู้ตรวจการเลือกตั้งชุดใหม่มาแล้ว เกิดเป็นครหามาอีกว่า เป็นคนของคสช.หรือมีความสัมพันธ์กับแม่น้ำสายใดสายหนึ่งขึ้นมาอีกแล้วจะไม่เสียหายไปใหญ่หรือ เพราะนั่นอาจจะเป็นเหตุทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงให้ไม่ยอมรับกระบวนการเลือกตั้งทั้งระบบก็เป็นได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image