เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 16 สิงหาคม ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี นายพิเชษฐ นางสุกัลยา และ น.ส.สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อ แม่ และพี่สาวของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย อดีตนักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) ที่เสียชีวิตจากการธำรงวินัยขณะเข้าเรียนที่โรงเรียนเตรียมทหาร โดยไม่สามารถระบุการเสียชีวิตได้ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2560 จากนั้นพบว่าอวัยวะภายในได้หายไป ต่อมาได้นำมาคืน และให้ทางโรงพยาบาลตรวจสอบ เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้งหนึ่ง ได้ร่วมกันแถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีที่สถาบันนิติเวชวิทยาศาสตร์ได้ออกมาชี้แจงว่า ผลการชันสูตรเบื้องต้น อวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ สมอง ทางสถาบันไม่สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันได้ เนื่องจากสารพันธุกรรมของเนื้อเยื่อได้ผ่านการดองน้ำยาฟอร์มาลีน มีการเสื่อมสลายมาก ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่น จึงได้นำส่งอวัยวะดังกล่าวไปให้คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ตรวจพิสูจน์ยืนยันอีกครั้ง
“ปรากฏว่าทางโรงพยาบาลรามาธิบดียืนยันมาว่า เนื้อเยื่อจากอวัยวะต่างๆ มีสารพันธุกรรมในปริมาณ และคุณภาพที่ไม่เหมาะสมในการตรวจวิเคราะห์ต่อไป ทำให้ไม่สามารถระบุรูปแบบสารพันธุกรรม เพื่อนำมาเปรียบเทียบว่าเป็นบุคคลใดได้ ดังนั้น ผลสรุปที่ได้นำส่งพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2560 ถือว่าเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์แล้ว”
น.ส.สุพิชา กล่าวว่า น้องชายเสียชีวิตไปแล้วประมาณ 10 เดือน ตอนนั้นพบทางตัน เพราะการตรวจพิสูจน์ชิ้นเนื้อไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นของน้องเมย ทำให้ไม่สามารถสรุปการเสียชีวิตได้ ส่งผลถึงสำนวนการชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ทำให้มีผลต่อรูปคดีมาก จากการไม่สามารถตรวจสอบอวัยวะได้ หลังจากนี้จะทำหนังสือขอความเป็นธรรมจากแพทยสภา ในฐานะดูแลแพทย์ทั้งหมดในประเทศ ให้ลงมาดูการเก็บชิ้นเนื้อ การผ่าชันสูตรศพของโรงพยาบาลพระมงกุฎทำถูกต้องตามมาตรฐานหรือไม่ในการเก็บอวัยวะ เพราะเมื่อสถาบันนิติเวชวิทยาศาสตร์ไม่สามารถตรวจสอบอวัยวะได้ มีผลต่อการฟ้องร้อง เพราะไม่สามารถระบุการเสียชีวิตได้ ประกอบกับความเห็นของโรงพยาบาลมีความขัดแย้งกัน ทำให้ไม่สามารถสรุปสาเหตุการตายได้อีก
“ยอมรับว่าถึงทางตันเหมือนกัน ส่วนการฟ้องร้องด้วยตนเอง จากการว่าจ้างทนายความนั้น จะต้องปรึกษาหารืออีกครั้งหนึ่ง ส่วนคดีทางตำรวจมีทั้งหมด 4 คดี ส่งฟ้องศาล 1 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน 3 คดี สาเหตุที่ล่าช้าอ้างว่าติดการเรียน และไม่ว่าง” น.ส.สุพิชา กล่าว
นางสุกัลยา กล่าวว่า การฟ้องร้องที่ครอบครัวทำในขณะนี้ เพื่อขอความเป็นธรรม และความยุติธรรมให้กับน้องเมยเท่านั้นเอง
นายพิเชษฐ กล่าวว่า ตนแย้งตั้งแต่รับอวัยวะน้องเมยมาจากโรงพยาบาลพระมงกุฎแล้ว ว่าไม่ใช่อวัยวะของน้องเมยจริง ที่ไม่เชื่อ เพราะเมื่อผ่าตัดแล้วไม่เอาอวัยวะใส่คืนร่างน้องเมยทั้งหมด แต่มีเรื่องแล้วเอาอวัยวะมาคืน ตอนนี้จึงเชื่อว่าไม่ใช่อวัยวะของน้องเมยจริง
