‘สภากลาโหม’ ไฟเขียว ตั้งกรมทหารพรานนาวิกโยธินดูแลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหมแถลงผลการประชุมสภากลาโหมโดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตั้งกรมทหารผ่านนาวิกโยธินกองทัพเรือที่จะลงพื้นที่ดูแลสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามนโยบายของรัฐบาลและกล่องในการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรโดยจะใช้กำลังประจำถิ่นเขาดูแลแทนกำลังหลักที่จะนำกลับเข้าพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และตราด เพื่อปฏิบัติภารกิจตามแนวชายแดนซึ่งกำลังพลชุดใหม่นี้จะประกอบด้วย 1 กรม 16 กองร้อยและ1 หมวดทหารพรานหญิง ที่จะประจำการที่อำเภอตากใบจังหวัดนราธิวาสและเตรียมเข้าคณะรัฐมนตรีได้คาดว่าในสัปดาห์หน้าโดยจะแบ่งงบประมาณออกเป็นสองระยะคืองบประมาณประจำปี 2559 และงบประมาณประจำปี 2560

พล.ต.คงชีพกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ พล.อ.ประวิตรยังมอบนโยบายในที่ประชุมในเรื่องการดูแลและปกครองทหารเกณฑ์ที่จะเข้ารับการฝึกในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยกำชับไม่ให้มีการทำร้ายหรือทำให้เกิดการสูญเสียนอกจากนี้ให้ดูแลทหารเกณฑ์อย่างใกล้ชิดเปรียบเสมือนน้องและลูกหลานดูแลด้วยความเมตตามีการลงโทษได้แต่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบที่มีอยู่ไม่ให้มีการทำร้ายทหารเกณฑ์ภาพรวมที่ผ่านมาในการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าประจำการหรือทหารเกณฑ์ในปี 2559 นี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และเน้นเรื่องการฝึกเบื้องต้นเป็นตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

“สำหรับนโยบายเกี่ยวกับความมั่นคง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม กำชับ ติดตามข่าวการมีหรือใช้อาวุธสงครามไว้ในครอบครองตามแนวชายแดน อย่างเข้มงวดและขยายเครือข่ายร่วมกับประชาชนเพื่อไม่ให้นำอาวุธสงครามมาข่มขู่และละเมิดสิทธิมนุษยชนและความมีเสรีภาพตามกฎหมาย” โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าว และว่า ตนย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับการลงประชามติ แต่เราไม่ต้องการให้ประชาชนอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนที่กระทำตัวเหนือกฎหมายอีกทั้งเป็นการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและการใช้ความรุนแรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image