“บิ๊กป้อม”สั่งเหล่าทัพปรับปรุงยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ

เมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมว่า พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำในที่ประชุมให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพปฏิบัติราชการตามธรรมาภิบาล ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งปี 2560 รัฐบาลกำลังรณรงค์เรื่องธรรมาภิบาล และต้องการให้ข้าราชการปฏิบัติตาม การเดินหน้าต่อจากนี้จะเดินด้วยหลักธรรมาภิบาลและแนวทางประชารัฐที่รัฐบาลกำหนดเพื่อรักษาความสมดุลทั้งเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อม ให้การบริหารราชการแผ่นดินเกิดความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการแก้ปัญหาประเทศด้วยความยั่งยืน

พล.ต.คงชีพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้พล.อ.ประวิตรได้สั่งการให้ทบทวนและปรับปรุงยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหมให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในระยะ 20 ปี โดยร่างยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2560-2579 ได้มีการวิเคราะห์สภาพแวดล้อมความมั่นคงของโลก ภูมิภาคและสถานการณ์ภายในประเทศมากำหนดวิสัยทัศน์ที่กระทรวงกลาโหมต้องมีกองทัพที่มีบทบาทชั้นนำและมีบทบาทสำคัญในด้านความมั่นคงของรัฐ อีกทั้งส่งเสริมความมั่นคงของภูมิภาค มีเป้าหมายเสริมสร้างการพัฒนากองทัพ 4 ระยะ แบ่งเป็นระยะละ 5 ปี เพื่อนำเข้าที่ประชุมสภากลาโหมเพื่อพิจารณาเห็นชอบต่อไป สำหรับนโยบายเกี่ยวกับความมั่นคง พล.อ.ประวิตร ได้กำชับให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมติดตามงานด้านการข่าวเรื่องการใช้และมีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดและขยายเครือข่ายร่วมกับประชาชน เพื่อไม่ให้นำอาวุธสงครามมาข่มขู่และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเด็ดขาด เพื่อให้ประชาชนมีเสรีภาพตามกฎหมาย ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการลงประชามติในวันที่ 7 ส.ค.นี้ เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนอยู่ภายใต้อิทธิพลของคนที่กระทำตัวเหนือกฎหมาย อีกทั้งเป็นการป้องกันอาชญากรรมข้ามชาติและการใช้ความรุนแรง อย่างไรก็ตามขอให้มั่นใจว่า 2 ปีที่ผ่านมากองทัพไม่เคยใช้กำลังข่มขู่หรือละเมิดบุคคลนอกเหนือกฎหมาย เพราะเราอยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image