เหมือนกับการควบคุมตัว นายวัฒนา เมืองสุข เพื่อ “ปรับทัศนคติ”จะเป็น “เรื่องธรรมดา”อย่างยิ่ง
1 เพราะเคย “ทำ” มาแล้ว 3 หน
1 เพราะคนอื่นๆก็เคยโดนมาแล้ว ต่างกรรมต่างวาระ และหนักกว่านี้ด้วยซ้ำ
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ถูกอุ้มจาก”มหาชัย”
นายจาตุรนต์ ฉายแสง ไม่เพียงแต่มีคดีความในศาลทหาร หากกระทั่ง “พาสปอร์ต” ยังถูกระงับ
หลังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 ใครก็ “โดน”
กระนั้น หากศึกษา “รายละเอียด”และ”ผลสะเทือน”จากสถาน การณ์หน้ามทบ.11 เมื่อวันที่ 18 เมษายนก็จะรับรู้ใน “ความแปลก”
ไม่ว่าจะเป็นความแปลกจาก นายวัฒนา เมืองสุข ไม่ว่าจะเป็นความแปลกจากพรรคเพื่อไทย
“รุนแรง” กว่าทุก “สถานการณ์”
นายวัฒนา เมืองสุข ผ่าน “การตระเตรียม” เพื่อรับมือกับ”สถาน การณ์”อย่างมีจังหวะก้าว
1ไม่ยอมให้ “ควบคุม”ตัวในวันที่ 14 เมษายน
การต่อรองว่าจะเดินทางไปในวันที่ 18 เมษายน อาจกระทำในแบบ “กบดาน” แต่ก็มีข้อความโพสต์ผ่าน”เฟซบุ๊ค”ทุกวัน
1 เมื่อเดินทางไปยังมทบ.11 ก็มิได้สวมเสื้อยืดไปเพียงคนเดียว ตรงกันข้าม มี นายจาตุรนต์ ฉายแสง พร้อมกับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รออยู่ ระดับอดีต”รองนายกรัฐมนตรี”เลยเชียว
ยิ่งกว่านั้น ยังมีการชี้แจงให้รู้ถึงกาทำจดมหมายเตรียมส่งไปยัง สหประชาชาติ และองค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลกมากกว่า 20 องค์กร
ยิ่งกว่านั้น ยังมี”ตัวแทน”จากสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศเข้าร่วมสังเกตการณ์
แสดงว่า “ตระเตรียม” อย่าง “ครบครัน”
ตกเย็นวันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ปล่อยตัว นายวัฒนา เมืองสุข โดยปราศจากเงื่อนไข
เรื่อง “ธรรมดา” เลยกลายเป็น “ไม่ธรรมดา”
เหตุปัจจัยอะไรที่พรรคเพื่อไทยและ นายวัฒนา เมืองสุข อาศัยมาเป็นเงื่อนไขในทางการเมือง
1 ปัจจัยจาก “ร่างรัฐธรรมนูญ”
1 ปัจจัยจาก “ประชามติ”
คำยืนยันไม่ว่าจะเป็นของ นายวัฒนา เมืองสุข ไม่ว่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทยก็คือ ท่าที “ไม่ยอมรับ” ต่อ “ร่างรัฐธรรมนูญ”
การแสดงออกของ นายวัฒนา เมืองสุข ที่ไม่ยอมรับต่อร่างรัฐธรรมนูญไม่ได้เป็น “ความผิด”
“คำถาม” นี้ถามตรงไปยัง “คสช.”
ไม่เพียงแต่ นายวัฒนา เมืองสุข จะถาม ไม่เพียงแต่พรรคเพื่อ ไทยจะถาม
หากนานาชาติก็ “ถาม”
