องค์กรภาคประชาสังคม ยื่น ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอ สตช.ยกเลิก ประกาศเลือกปฏิบัติ ไม่รับพนักงานสอบสวนหญิง
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน นางเรืองรวี พิชัยกุล ผู้อำนวยการของสถาบันวิจัยบทบาทหญิงชาย และการพัฒนา พร้อมตัวแทนภาคประชาสัมคม 5 องค์กร นำรายชื่อทั้งเพศชายและหญิงรวม 99 คน เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายกมลธรรม วาสบุญมา ผู้อำนวยสำนักกฎหมายและคดีสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้ตรวจสอบสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรณีมีประกาศรับสมัครคัดบุคคลภายนอก เพื่อบรรจุและแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร พ.ศ. 2561 ตำแหน่งพนักงานสอบสวนเฉพาะเพศชาย โดยระบุว่า เห็นว่าประกาศของ สตช.เป็นการเลือกปฏิบัติโดยเหตุแห่งเพศ ขัดรัฐธรรมนูญ ขัด พ.ร.บ.ความเท่าเทียมระหว่างเพศ พ.ศ.2558 ขัดต่อหลักกติกาสากลที่ไทยลงนามเป็นภาคีสมาชิก เนื่องจากที่ผ่านมากว่าสิบปี สตช.ก็มีการรับพนักงานสอบสวนทั้งผู้หญิงและผู้ชายมาโดยตลอด แต่ปีนี้กลับปิดกั้น ซึ่งจากสถิติมีชายและหญิงที่จบเนติบัณฑิต โดยเป็นผู้หญิงกว่า 3 พันคนที่ต้องเสียสิทธิไม่สามารถสมัครสอบเข้ารับการคัดเลือกดังกล่าวได้ ที่ผ่านมาทางขบวนผู้หญิงปฏิรูปประเทศ ได้มีการจัดสัมมนาและพยายามเชิญผู้แทนจากสตช.มาชี้แจงถึงข้อขัดข้องที่ไม่สามารถรับผู้หญิงเป็นพนักงานสอบสวนได้ แต่ทางสตช.โดยสำนักงานกำลังพลได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า ขัดข้องไม่สามารถมาชี้แจงได้ ทำให้ต้องมาร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อตรวจสอบและมีข้อเสนอแนะไปยัง สตช.ให้ยกเลิกประกาศฉบับนี้ แล้วออกประกาศรับสมัครใหม่ให้มีทั้งหญิงและชาย รวมทั้งมีหนังสือไปถึงนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นประธาน กตร.และประธานคณะกรรมการความเสมอภาคของชายหญิง เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งเดือน เพื่อไม่ให้กระบวนการในขณะนี้เดินต่อเพราะจะทำให้ผู้หญิงที่ไม่มีโอกาสสมัครเสียสิทธิไป และอาจทำให้คนที่ได้รับการคัดเลือกแล้วได้รับผลกระทบหากมีการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ในภายหลัง
ขณะที่นายกมลธรรม ชี้แจงว่า จะเร่งนำเรื่องนี้เสนอต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่ไม่สามารถกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนได้ เพราะบางเรื่องอาจต้องขอข้อมูลเพิ่มเติม แต่การแจ้งความคืบหน้าการพิจารณาจะทำเป็นระยะอยู่แล้ว
