09.00 INDEX รหัสยนัย ความโมโห หงุดหงิด ของ ท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เริ่มมีความแจ่มชัดในทิศทางและอนาคตทางการเมือง
คนหลังเมื่อเปล่งคำว่า “ผมพอแล้ว”

ก็ไม่มีข้อสงสัย แม้คำว่า “พอแล้ว” ส่วนหนึ่งจะมาจากความรู้สึกที่ว่า “โดนด่าพอแล้ว ด่าตลอดจริงๆ ผมทำแทบตายผมได้อะไรขึ้น มา โดนด่าอย่างเดียวไม่ได้อะไรเลย”

แต่ก็เด่นชัดอย่างยิ่งว่า แนวโน้มน่าจะ “วางมือ” และไม่เดินหน้าต่อไปอีก
ขณะที่คนหลังแม้จะ”ประกาศ”เรื่องนี้ในเดือนกันยายน

Advertisement

แต่หากดูจากอากัปกริยาล่าสุดไม่ว่าที่ทำเนียบรัฐบาล ไม่ว่าเบื้องหน้ารัฐวิสาหกิจ ณ โรงแรมเซ็นทารา ก็ต้องยอมรับว่าเดินไป “ข้างหน้า” แน่นอน ไม่มีอะไรวอกแวก

ทั้งๆที่ไม่ว่าจะไปที่บุรีรัมย์ ไม่ว่าจะไปที่อุบลราชธานี ไม่ว่าจะไปที่เพชรบุรี ไม่ว่าจะไปที่ระนอง ชุมพร
เสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่ม

ที่บุรีรัมย์คนกว่า 30,000 ตะโกนขึ้นพร้อมๆกันว่า “ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่สู้ๆ” ดังกึกก้อง

Advertisement

ที่เพชรบุรีขอให้”ลุงตู่”เป็นนายกรัฐมนตรี”ตลอดชีวิต”ที่ระนองและชุมพรชาวบ้านประสานเสียงว่า ขอให้”ลุงตู่”อยู่นานๆอย่าไปไหน

แล้วเหตุใดเมื่อกลับมา”ทำเนียบรัฐบาล”จึงหงุดหงิด
ชี้ไม้ ชี้มือ ตะโกนโหวกเหวกเมื่อเดินหนีออกจากโพเดี้ยมแล้วสั่งให้ “นักข่าว”ออกไป นี่ย่อมเป็นเรื่องแปลก ชวนให้สงสัย

หากเป็นเมื่อก่อนอาจแลดูน่ารักเมื่อเห็นอาการเง้างอน หงุดหงิดจากผู้ใหญ่ แต่เมื่อถึงเดือนสิงหาคม 2561 ไม่ใช่แล้ว

นี่จึงเป็นเรื่องที่หลายฝ่ายต้องนำมาครุ่นคิด พิจารณา

ถามว่าความหงุดหงิดของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาจากเหตุปัจจัยใด
เป็นคำถามเรื่องการเมือง เป็นคำถามเรื่องการทหาร

บริบทอันแวดล้อมต่อ”คำถาม”จึงสำคัญ เช่นเดียวกับบริบทอันก่อให้เกิดการตัดสินใจของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เมื่อเปล่งคำว่า “ผมพอแล้ว”ออกมา

ออกมาในห้วงใกล้เคียงกับวันที่ 26 สิงหาคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image