จากกรณีน้าสาวของ พลทหารคชา พะชะ อายุ 22 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดหน่วยทหารแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี เผยว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา หลานเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการหัวใจหยุดเต้น แต่ไม่แจ้งว่าเกิดจากสาเหตุอะไร จากนั้นช่วงสายพ่อหลานก็โทรไปหานายทหารคนหนึ่งยศพันโทว่า น้องไม่น่าน็อกไปเอง เพราะไม่มีโรคประจำตัว และเป็นคนแข็งแรง อยู่ดีๆ จะน็อกไปได้อย่างไร นายทหารคนดังกล่าวก็ยอมรับกับพ่อของหลานว่ามีพลทหารรุ่นพี่ 3 คน ทำการซ่อมหลานจริง เขาจับทั้ง 3 คนขังคุกทหารแล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีอะไร เบื้องต้นทั้ง 3 คนรับสารภาพว่าซ่อมรุ่นน้องจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ทางญาติๆ ของพลทหารคชาได้นำอาหารคาวหวานมาใส่บาตรพระสงฆ์ที่ออกรับบิณฑบาตภายในโรงพยาบาลอานันทมหิดล หวังให้เกิดอภินิหาร
นางกาญจนาภรณ์ สีหะวงค์ อายุ 29 ปี น้าของพลทหารคชา กล่าวว่า วันนี้ครอบครัวและญาติๆ ที่มาเฝ้าอาการพลทหารคชาได้พากันซื้ออาหารคาวหวานมารอใส่บาตรพระสงฆ์ หลังจากเมื่อคืนนี้ทางแพทย์ได้มาบอกกับญาติๆ ว่า ขณะนี้พลทหารคชามีอาการปอดติดเชื้อเพิ่มมาอีกโรคหนึ่ง ทางแพทย์ได้ห้ามญาติๆ เข้าเยี่ยมแล้ว เพราะอาการติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นแทบจะเสียชีวิต เกรงว่าจะไม่ปลอดภัยกับผู้ป่วย
“หลังจากทราบข่าวว่าหลานติดเชื้อรุนแรงก็พากันนอนไม่หลับกันทั้งคืน กระทั่งเช้าก็พากันมาใส่บาตร พอสายๆ ทางทหารก็ได้รับพ่อกับแม่ของพลทหารคชาไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ไหนว่าดี มีคนไปกราบไหว้กันเยอะก็ไปกัน จนเวลา 11.00 น. ทาง ผอ.รพ.ได้มาพบญาติ พร้อมกล่าวว่า ขณะนี้หลานปอดติดเชื้อรุนแรง หัวใจจะหยุดเต้นแล้ว แต่ทางแพทย์ได้เพิ่มตัวยาอย่างแรงไปแล้ว พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่”
นางกาญจนาภรณ์กล่าวว่า เมื่อวานนี้ทางญาติได้นำเอกสารของแพทย์ไปพบพนักงานสอบสวน และแจ้งความเพิ่มว่า พยายามฆ่าพลทหารคชา แต่ทางพนักงานสอบสวนดูเอกสารแล้วบอกว่าเป็นเพียงแค่ทำร้ายร่างกายจนอาการสาหัส หลักฐานมีไม่เพียงพอที่จะแจ้งว่าพยายามฆ่าได้
