“บิ๊กตู่” กดปุ่มโมโนเรลสายสีชมพู-เหลือง ย้ำทุกอย่างต้องสุจริตโปร่งใส

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 27 สิงหาคม ที่บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองหมวดทางหลวงศรีนครินทร์ ถนนศรีนครินทร์ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศไทย คือ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และน่าสังเกตว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า วันนี้ถือว่าพวกเราได้มาร่วมกันสร้างบริบทให้กับประเทศ ในการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรล 2 สายแรกของประเทศ ระบบขนส่งมวลชนของประเทศไทยทุกคนทราบดีว่ามีปัญหามาก ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัด ปริมณฑล กรุงเทพมหานคร และพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ ปัญหาการจราจรถือว่าหนักหนาสาหัส วันนี้จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ปัญหาให้ได้ ซึ่งประกอบด้วยหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องการใช้รถ ใช้ถนน การเคารพกฎหมาย รัฐบาลเองก็ต้องหาวิธีการที่จะทำให้การจราจรลื่นไหล

“ถ้ามัวแต่มองข้างเดียวเรื่องการก่อสร้าง หรือสร้างให้มากที่สุด ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขปัญหาทั้งหมด เราต้องแก้ปัญหาหลายๆส่วนพร้อมกัน ภาครัฐ ภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ รวมถึงผู้ประกอบการ ต้องร่วมมือกันทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองให้ดีขึ้นในวันข้างหน้า เราเสียเวลาต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะทำให้เกิดการสูญเสียมากมาย ทั้งการจราจร ความสิ้นเปลือง คุณภาพชีวิต ผู้ใช้รถใช้ถนนซึ่งปัญหาเหล่านี้รัฐบาลนี้ให้ความสนใจอย่างมาก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวและว่า การดำเนินการก่อสร้างรถไฟฟ้าโมโนเรลครั้งนี้ ถือเป็นหนึ่งในโครงการผลักดันโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ อย่างไรก็ตามการดำเนินโครงการใดๆ สังคมมักจะมองเพียงด้านเดียวก่อน ทั้งเรื่องผลประโยชน์ การทุจริตต่างๆ อยากให้มองที่เหตุและผลในการดำเนินการก่อสร้างว่า ทำเพื่ออะไรเป็นการเชื่อมโยงเส้นทางต่างๆทางรถไฟ รถไฟฟ้ารางเดียว รวมถึงการปรับปรุงเส้นทางรถเมล์สายต่างๆ ซึ่งทั้งหมดได้กำหนดไว้ในแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่ถ้าทำไม่ได้ด้วยเหตุผลพอสมควร ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ทั้งหมดต้องถูกต้องตามกฏหมาย ด้วยระเบียบวิธีการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกต้อง สุจริต

“ปัญหาที่สำคัญคือ การใช้พื้นที่ในการก่อสร้าง จะเห็นได้ว่าในหลายเส้นทางยังมีปัญหาแม้จะมีแผนงานโครงการไปแล้วก็ตามเนื่องจากติดขัดในเรื่องที่ดินของเอกชนโดยเฉพาะปัญหาเรื่องค่าเวนคืน  ซึ่งต้องหาวิธีการที่เหมาะสมต่อไป ต้องหาวิธีการตอบแทนประชาชน อาทิ การแบ่งปันผลประโยชน์จะทำได้หรือไม่ก็ต้องไปคิดต่อ ไม่เช่นนั้นก็ไม่สามารถก่อสร้างอะไรได้ ขอมอบเป็นนโยบายให้กระทรวงคมนาคมไปดำเนินการ วันนี้อะไรก็ได้ที่ทำให้มันดีขึ้น ทำอย่างไรให้ลดความขัดแย้งระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน เรามีกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกเรื่อง ผมเองในฐานะผู้นำรัฐบาลไม่สามารถจะไปล้วงลูกลึกในรายละเอียดข้างล่างได้ แต่พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น และมีการสั่งการตรวจสอบลงไป จึงขอย้ำว่า จะต้องไม่มีการทุจริตอย่างเด็ดขาด ในการทำงานวันนี้ขอให้เชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความขัดแย้งทั้งหมด ทุกอย่างต้องมีการแข่งขันกันทั้งสิ้น อย่าลืมว่าที่ผ่านมา 10 -20 ปี เกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย เราต้องทำทุกอย่างให้ถูกต้อง อย่าพูดกันไปมาจนเกิดความสับสนอลหม่าน จนรัฐบาลแก้ไขปัญหาได้ยาก” นายกรัฐมนตรี กล่าว

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อจัดหาโครงการ โครงสร้างพื้นฐานและบริการสาธารณะที่เป็นหน้าที่ของรัฐ หรือ การลงทุนแบบ PPP Fast Track นั้น มีกติกา กฎหมายชัดเจน ยืนยันว่าไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับใครทั้งสิ้น ใครที่สามารถเข้าถึงก็สามารถเข้ามาร่วมลงทุนกับรัฐได้ แต่ต้องคำนึงถึงภาครัฐ เอกชน และประชาชน ต้องสร้างให้เกิดความสมดุลระหว่างกันให้ได้ ถ้ามุ่งหวังแต่ประโยชน์ส่วนตัวเพียงอย่างเดียวก็ไปไม่ได้ทั้งหมด ไม่เกิดผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพกับประเทศ รัฐบาลไม่สามารถลงทุนทุกอย่างได้ เพราะรายได้ของประเทศมีจำนวนไม่มาก

“ฝากทุกคนช่วยกันทำความเข้าใจ ไม่เช่นนั้นทุกคนก็จะเข้าใจกันคนละเรื่องความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นสูง รัฐบาลเองก็ลำบากในการทำงาน การก่อสร้างต่างๆ ย่อมเกิดปัญหาการจราจรติดขัดอย่างแน่นอนซึ่งตรงนี้ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพราะอย่าลืมว่าคนที่อยากให้ก่อสร้างก็มี แต่ก็ยังมีคนไม่อยากให้ก่อสร้างเพราะไม่ได้ใช้งาน ก็เกิดการต่อต้าน ต้องชี้แจงทำความเข้าใจในภาพรวมให้คนทั้งสองฝ่ายเข้าใจถึงความจำเป็น วันนี้เราต้องเสียสละและช่วยกันขอฝากผู้ประกอบการว่า ในการดำเนินโครงการต้องทำให้มีมาตรฐานมีความรวดเร็วแข็งแรง รวมทั้งดูแลประชาชนในเรื่องของราคาค่าบริการให้เกิดความเป็นธรรมให้มากที่สุด เราต้องทำให้คนประมาณ 15 ล้านคน ที่เป็นผู้มีรายได้น้อยสามารถเข้าถึงการพัฒนาและมีการเจริญเติบโตขึ้น อย่าไปสร้างความเข้าใจว่าเราจะให้เพียงอย่างเดียว ที่ผ่านมา 4 ปี รัฐบาลดูแลมาอย่างมากมายมหาศาล ก็ขอให้ระมัดระวังในการรับฟังข่าวสารต่างๆ โดยเฉพาะจากสื่อโซเชียลฯ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ไม่มีใครทำให้ทุกคนพอใจได้แต่เราจะทำให้ดีที่สุด ก็คาดหวังในรัฐบาลต่อไปว่าจะทำให้ดีขึ้น อย่าให้เป็นเช่นที่ผ่านมา ซึ่งผมไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก แต่เป็นเรื่องของกระบวนการประชาธิปไตย เราต้องทำประชาธิปไตยของเราให้ถูกต้องและเหมาะสม เป็นไปตามข้อเท็จจริงของประเทศเราและบริบทของประเทศไทย การออกนโยบายของรัฐบาลไม่ได้ออกมาเฉยๆ ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ ทางด่วนก็แล้วแต่จะต้องเป็นแผนแม่บทออกมา แต่วิธีการต่อไปคือเรื่องของการปฎิบัติ ความเข้าใจของประชาชน ความร่วมมือของภาคเอกชน ทั้งหมดจะต้องสำเร็จได้ไม่อย่างนั้นก็จะขัดแย้งกันไปมาจนกระทั่งไม่จบสิ้น ถ้าวันไหนบ้านเมืองไม่สงบสุขมันก็จบทุกเรื่อง ก็ฝากทุกคนช่วยทำความเข้าใจด้วย

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวขอบคุณแรงงาน เจ้าหน้าที่ พนักงาน โดยขอให้ทุกคนปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมยกตัวอย่างว่าเวลาไปต่างประเทศจะเห็นว่าก่อสร้างมีความเรียบร้อย เครื่องไม้เครื่องมือวางเป็นระเบียบ ส่วนของเราก็อยู่ในเกณฑ์ดี และก็ขอให้ดียิ่งขึ้นไป มีกำหนดเวลาที่แน่นอนในการทำงาน เจ้าหน้าที่ได้รับการป้องกันที่ดี ซึ่งเราเห็นจากต่างประเทศทั้งสิ้นแล้วเราต้องเดินหน้าไปสู่แบบนั้น และต้องเร่งพัฒนาต่อไป แม้จะรู้ว่ามันยาก แต่เราต้องเข้มงวดในทุกๆเรื่อง ก็ขอฝากผู้ประกอบการด้วย ขอให้ดูแลพี่น้องประชาชน ลูกจ้างพนักงาน และประเทศให้เกิดความเข้าใจ

“ทุกๆ คนต้องรักษาเกียรติของตัวเอง ทุกคนมีเกียรติเกียรติเป็นสิ่งที่ทุกคนให้เรา เขาให้ข้าราชการให้พลเรือน ให้ฝ่ายตำรวจ ทหาร ให้ฝ่ายการเมือง คือเกียรติไม่ใช่การมียศมีตำแหน่งแล้วนั้นคือเกียรติ ต้องมีเกียรติมากกว่าคนอื่น ไม่ใช่ ต่อให้ท่านเป็นนายกฯ ต่อให้ท่านเป็นอะไรก็ตาม ถ้าเขาไม่ให้เกียรติท่าน ท่านก็เป็นไม่ได้ ถ้าเป็นผม ผมก็ไม่มีความสุข เพราะเกียรติเป็นสิ่งที่คนอื่นให้เรา จากการที่เราทำความดีให้กับเขา ฉะนั้นการเป็นเจ้าใหญ่นายโต เกียรติยศสูงตำแหน่งสูงไม่ใช่สิ่งที่เราจะไปทำอะไรคนอื่นได้ ไม่ใช่ทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้โครงการนี้เป็นตัวอย่างของโครงการอื่นๆอีกมากมาย เพราะรัฐบาลไมสามารถลงทุนทั้งหมดได้ ภาระจะมาก วันนี้ต้องช่วยรัฐบาลระวังในเรื่องของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างด้วย น่าจะต้องมีการใช้จ่ายงบประมาณในวงเงินสัดส่วนที่กำหนด ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำให้เกิดความเชื่อมั่นให้ได้ว่า วันข้างหน้าจะต้องไม่เกิดเรื่องราวที่ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต แต่ถ้าทุกคนทำอย่างที่บอกจะสามารถปฏิบัติได้แน่นอน ไม่ต้องการไปก้าวล่วงอำนาจการบริหารของใครทั้งสิ้น เราต้องทำงานให้สำเร็จ

จากนั้นนายกรัฐมนตรี ทำพิธีกดปุ่ม เพื่อเทคอนกรีตลงสู่ฐานราก ถือเป็นสัญลักษณ์เริ่มการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าโมโนเรลทั้ง 2 สาย โดยระหว่างเยี่ยมชมนายกฯกล่าวด้วยว่า ทุกอย่างต้องทำให้เกิดความไว้วางใจ

ทั้งนี้รถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย เป็นโครงการนำร่องภายใต้นโยบายของรัฐบาลที่มีวัตถุประสงค์เร่งรัดการดำเนินโครงการให้มีความรวดเร็วและเปิดโอกาสให้เอกชนร่วมลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ต่างๆ ร่วมกับภาครัฐ เพื่อลดภาวะด้านงบประมาณและหนี้สาธารณะ โดยให้เอกชนร่วมลงทุนเป็นเวลา 33 ปี 3 เดือน แบ่งเวลาก่อสร้างและติดตั้งระบบ ขบวนรถไฟฟ้า 3 ปี 3 เดือน และ ช่วงเวลาให้บริการและบำรุงรักษา 30 ปี และจะให้เอกชนเป็นผู้จัดเก็บค่าบริการโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสารของโครงการ ซึ่งรถโมโนเรลมีความพิเศษกว่ารถไฟฟ้าปกติ คือใช้พื้นที่ในการก่อสร้างน้อยลง เนื่องจากโครงสร้างทางวิ่งมีขนาดเล็ก สามารถก่อสร้างได้เร็วขึ้นกว่าเท่าตัว มีความคล่องตัวมากกว่ารถไฟฟ้าขนาดใหญ่ เสียงเบา และโครงสร้างทางวิ่งโปร่งมีความเร็วที่เพียงพอต่อการให้บริการเขตเมืองใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าขนาดใหญ่

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image