นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า ซีพีจะลงทุนหลายแสนล้านบาท สร้างโครงการเมืองใหม่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา บนพื้นที่ 10,000 ไร่ มีแนวคิดที่จะสร้างเป็น smart city มีการวางผังเมืองและระบบสาธารณูปโภคครบถ้วน รวมทั้งบริการอื่นๆ ของเมืองให้รวมอยู่จุดเดียว เช่น โรงพยาบาล มหาวิทยาลัย ศูนย์การค้า โดยนายธนินท์ระบุว่า เหตุที่เลือกจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นสถานที่แรก เพื่อเป็นโครงการทดลองในการเชื่อมต่อกับอีอีซี และอยู่ไม่ห่างจากกรุงเทพมหานคร
นายธนินท์อธิบายว่า จะมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าในระบบรางเชื่อมต่อเข้ามายังสถานีมักกะสัน ให้เดินทางจากเมืองให้เข้ามาถึงกรุงเทพฯภายใน 20 นาที รถไฟจะออกทุก 1 หรือ 2 นาที ในเมืองจะใช้ระบบ zero waste หรือการรีไซเคิลขยะให้เป็นศูนย์ เช่น การรีไซเคิล การผลิตไฟฟ้า การแปรรูป ถนนในเมืองจะทำเป็น 3 ชั้น ชั้นบนที่อยู่บนพื้นเป็นสวนสาธารณะ ชั้นกลางเป็นถนน/ทางรถไฟ ชั้นล่างสุดเป็นส่วนของการบริการ เช่น ขยะ ท่อน้ำเสีย ท่อบริการของระบบไฟฟ้า-ประปา
ทั้งนี้ ยังจะรวมศูนย์การค้าใหญ่อยู่กลางเมือง ให้รวมเอาไว้ที่เดียว เพราะไม่ต้องการให้มีปัญหาการจราจรติดขัด ดังจะออกแบบให้คนสามารถเดินไปทำงานได้ พร้อมกันนั้นจะจำกัดจำนวนประชากรว่าจะต้องไม่ต่ำกว่า 300,000 คน เพื่อให้ธุรกิจ-บริการคุ้มทุน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้สถาปนิก/ที่ปรึกษาจากสหรัฐ-อังกฤษ ออกแบบและวางแผนอยู่ สำหรับทำเลสร้างเมืองใหม่ในอีอีซีนั้น นายธนินท์มองว่า นอกจากจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว พัทยา จังหวัดชลบุรี หรือ ระยอง ก็น่าสนใจ โดยเมืองใหม่น่าจะมีประมาณ 20 แห่งทั่วประเทศไทย รองรับประชากรให้ได้ 6 ล้านคน แต่ซีพีจะไม่ลงทุนคนเดียว จะชวนนักธุรกิจไทย/ต่างประเทศมาร่วมลงทุนด้วย
กรณีเมืองใหม่นี้ ภาครัฐเคยมีความพยายามหลายครั้ง เคยคิดจะย้ายเมืองราชการกรุงเทพฯออกไปยังต่างจังหวัดหลายหน แต่ไม่สำเร็จ ขณะเดียวกัน ยังมีออกแบบผังเมืองสำหรับเมืองใหม่ขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ซึ่งจะจัดระเบียบไปตามแนวทางรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่คิดจะทำแต่ก็ล้มเหลว คราวนี้เป็นการนำเสนอของภาคธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่า หากภาครัฐไม่เกื้อหนุน ภาคประชาชนไม่เห็นด้วย โครงการคงยากที่จะประสบความสำเร็จ กรณีนี้ต้องพึ่งพาความร่วมมือหลายฝ่าย และยังท้าทายต่อแนวคิดประชารัฐที่รัฐบาลนำเสนอและสนับสนุนอีกครั้ง
