ถามว่าการใช้คำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2559 เพื่อควบคุมตัว นายวัฒ นา เมืองสุข เป้าหมายเพื่ออะไร
ตอบได้ว่า เพื่อ “สยบ”
นั่นก็คือ สงบการเคลื่อนไหวในแบบของ นายวัฒนา เมืองสุข ที่ออกมาแสดงการ “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ
เท่ากับ “เชือด”ไก่ ให้ “ลิง”ดู
ขณะเดียวกัน หลังจากคสช.ควบคุมตัว นายวัฒนา เมืองสุข ไปตั้งแต่เวลา 11.00 น.วันที่ 18 เมษายน แล้ว ผลเป็นอย่างไร เป็นไปตามเป้าหมายหรือไม่
เหมือนกับจะ “ใช่”
แต่เมื่อสำรวจ “ปฏิกิริยา” และ “การเคลื่อนไหว” ของบรรดาลิงทั้งหลายกลับไม่เป็นไปเช่นนั้น
นั่นก็คือ ยังไม่ “หมอบราบ” คาบแก้ว
ตัวของ นายวัฒนา เมืองสุข นั้นเงียบหายไปในค่ายทหารอย่างแน่นอน
จากมทบ.11 ดูเหมือนจะย้ายไปกาญจนบุรี
แต่หากมองผ่าน น.ส.วีรดา เมืองสุข ลูกสาว กลับมิได้เงียบเชียบอยู่ที่บ้านในหมู่บ้านสินเก้า ถนนศรีนครินทร์
เห็นได้จากการไปยื่นหนังสือต่อ EU
เห็นได้จากการเดินทางไปยื่นหนังสือยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ถนนวิทยุ
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยก็มิได้อยู่นิ่งๆ
นอกจาก นายจาตุรนต์ ฉายแสง กับ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง จะไปปรากฏตัวที่มทบ.11 พร้อมกับตัวแทนจากสถานเอกอัครราชทูตหลายคนแล้ว ตอนเย็น พรรคเพื่อไทยยังออก “แถลงการณ์”
เป็นแถลงการณ์ภายใต้หัวข้อ “ขอให้ปล่อยตัว นายวัฒนา เมืองสุข โดยปราศจากเงื่อนไข”
สะท้อนว่า “พรรคเพื่อไทย”จะ “ไม่นิ่งเฉย”
ยิ่งกว่านั้น ในตอน 18.00 น.ยังมีการเคลื่อนไหวที่นัดหมายโดยกลุ่ม “พลเมืองโต้กลับ”
ใส่เสื้อขาวยืนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
แสดงอย่างแจ้งชัดว่า เป็นผลจากการจับและควบคุมตัว นาย วัฒนา เมืองสุข
เมื่อมีการจับกุมตัว 4 แกนนำ
การชุมนุมก็ย้ายจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังบริเวณหน้าสน.พญาไท
กระทั่ง แกนนำ 4 คนได้รับการปล่อยตัวจึงยอมสลาย
จากนั้นก็ปรากฏ”แถลงการณ์” จากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน มูลนิธิผสานวัฒนธรรม มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน มูลนิธิ นิติธรรมสิ่งแวดล้อม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน สมาคม สิทธิเสรีภาพของประชาชน
ล้วนเป็นผลจากการจับกุม นายวัฒนา เมืองสุข
ที่อยากให้ “จบ” จึงส่อว่าอาจจะ”ไม่จบ”อย่างง่ายดาย
