พท. จี้ ‘รบ.-กกต.’ เลิกปิดกั้น! หาเสียงโซเซียล ชี้ โลกเปลี่ยนแล้ว อย่ามองแต่ความมั่นคง

เลขาฯพรรคพท. ชี้ เพจเฟซบุ๊กผุดขึ้นมากไม่แปลก เหตุโลกเปลี่ยน-สถานการณ์ประเทศไม่เปิดกว้างให้มีการแสดงความเห็น ต้องหาช่องทางติดต่อสื่อสารกับปชช. แนะ รบ.-กกต. คิดให้กว้าง-อย่าปิดกั้น

วันนี้ (31 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแฟนเพจของอดีตส.ส.พรรคพท.ผุดขึ้นพร้อมกันจำนวนมาก ว่า วันนี้หัวใจสำคัญคือโลกเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปกระบวนการสื่อสารก็ต้องดูว่ามีเครื่องมืออะไรบ้างที่จะสื่อสารกับพี่น้องประชาชนได้ ซึ่งหน้าที่ของพรรคการเมืองคือต้องสื่อสารข้อมูล ความคิด ปัญหา และการรับรู้ของ 2 ทาง คือ ต้องมีเครื่องมือสื่อสารที่จะรับฟังความเห็นของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด และต้องให้พี่น้องประชาชนได้รับรู้วิธีการ และนโยบายต่างๆ ดังนั้น ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปนี้การมีเฟซบุ๊ก หรือการมีโซเชียลมีเดียเป็นหนทางในการที่จะเข้าถึงพี่น้องประชาชนได้ อันนี้ก็เป็นเรื่องสำคัญอันหนึ่งที่สอดรับกับโลกที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งในฐานะพรรคการเมืองหนึ่ง องค์กรหนึ่ง ไม่ว่าจะองค์กรใดก็ตามมีหน้าที่ที่จะต้องปรับตัวเองให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ฉะนั้น การเกิดขึ้น หรือการมีเพจเฟซบุ๊กเพิ่มมากขึ้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร นอกจากนี้ ภายใต้กฎเกณฑ์กติกาซึ่งรัฐพยายามคิดเรื่องความมั่นคงเป็นหลัก แล้วพยายามควบคุม จัดการ ทำให้การหาเสียงมีความยากลำบาก จึง เป็นสถานการณ์ที่ไม่เปิดกว้างเพื่อให้คนใช้เครื่องมือในการรับฟังความเห็นต่างๆ ดังนั้น จึงต้องหาช่องทางที่จะสื่อสาร เพราะการหาช่องทางไม่ได้เป็นความผิดอะไร การทำให้มีหนทางที่ประชาชนกับพรรคการเมือง หรือประชาชนกับหน่วยงานต่างๆสามารถที่จะสื่อสารถึงปัญหา และความต้องการต่างๆคือสิ่งสำคัญในการแก้ปัญหาความสมัครสมานสามัคคี และการที่จะรับรู้ความต้องการของกันและกัน ดังนั้น ตนคิดว่า การเกิดขึ้นของเฟซบุ๊กจำนวนมากมายเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายทั้งประชาชน พรรคการเมือง หรือแม้กระทั้งรัฐบาลเองด้วยซ้ำ

“เพียงแต่หากท่านไม่คิดให้กว้างขวาง คิดแต่เรื่องความมั่นคง ก็ต้องถามว่า ความมั่นคงที่ท่านว่า เป็นความมั่นคงของท่าน หรือความมั่นคงของสังคม ถ้าเป็นเรื่องความมั่นคงของคนในสังคม กฎกติกาต่างๆที่มีก็ครอบคลุมดีอยู่แล้ว ก็ควรให้ทุกอย่างเป็นเวทีที่จะสื่อสารตอบสนองซึ่งกันและกันก็จะเป็นประโยชน์ ทั้งนี้ พท.เห็นถึงสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นแบบนี้ เราก็ยอมรับว่าโลกเปลี่ยน หมดยุคที่ต้องมานั่งวิ่งหาจดหมาย เราสามารถสื่อสารกันด้วยเครื่องมือสื่อสารแบบใหม่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนทั้งโลกเขาทำกัน รัฐบาลหรือกกต.ก็ต้องมองเรื่องนี้อย่างเข้าใจ และทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ไม่ควรกำหนดกฎหรือกติกาอะไรที่จะมาขัดขวางการสื่อสารสองทางระหว่างประชาชนกับองค์กรต่างๆ วันนี้แม้แต่มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ยังเปิดโอกาสให้นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเป็นนักศึกษาตลอดชีวิต สามารถติดต่อสอบถาม และแลกเปลี่ยนกับมหาวิทยาลัยได้ตลอดเวลา หากรัฐบาล และกกต.ไม่คิดเรื่องนี้ให้กว้าง ประเทศไทยเราจะเสียโอกาส และจะตามหลังนานาประเทศไปมาก” นายภูมิธรรม กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image