รายงานหน้า2 : ส่องผลสำรวจ‘ภาวะสังคมไทย’ ไตรมาส2 จ้างงานพุ่ง หนี้สินครัวเรือนรุงรัง

หมายเหตุนายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงผลสำรวจภาวะสังคมไทย ไตรมาส 2 ปี 2561

⦁การจ้างงาน

ไตรมาสสองปี 2561 การจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 เป็นการจ้างงานภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยและมีการขยายพื้นที่เพาะปลูก ส่วนนอกภาคเกษตรมีการจ้างงานทรงตัวเท่ากับไตรมาสสองปี 2560 แต่มีสัญญาณการจ้างงานที่ดีขึ้นในหลายสาขา ได้แก่ สาขาอุตสาหกรรมการผลิต เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากไตรมาสหนึ่งปี 2561 และเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 11 ไตรมาสส่วนหนึ่งเป็นผลจากการส่งออกสินค้าและการบริโภคภายในประเทศที่ขยายตัวดี สาขาโรงแรมและภัตตาคารมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.7 ตามการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และสาขาการก่อสร้างแม้การจ้างงานยังลดลงแต่เป็นการลดลงในอัตราที่ต่ำกว่า 5 ไตรมาสที่ผ่านมา

อัตราการว่างงานเท่ากับร้อยละ 1.1 เทียบกับร้อยละ 1.2 ในช่วงเดียวกันของปี 2560 เป็นผู้ว่างงานจำนวน 4.1 แสนคน ชั่วโมงการทำงานของแรงงานโดยรวมในไตรมาสสองปี 2561 เฉลี่ยเท่ากับ 4.32 ชั่วโมง/สัปดาห์ ลดลงร้อยละ 0.1 โดยสาขาที่มีชั่วโมงการทำงานลดลง ได้แก่ สาขาก่อสร้างและค้าส่งค้าปลีก แต่สาขาหลักได้แก่ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และโรงแรมและภัตตาคาร มีชั่วโมงการทำงานของแรงงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.9 0.2 และ 0.3 ตามลำดับ สะท้อนกิจกรรมการผลิตที่เพิ่มขึ้นในสาขาดังกล่าว ค่าจ้างแรงงานแท้จริงภาคเอกชนที่ไม่รวมผลประโยชน์ตอบแทนอื่นเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.7 ผลิตภาพแรงงานต่อคนเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 เทียบกับร้อยละ 3.4 ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

Advertisement

⦁ด้านแรงงานที่ต้องเฝ้าระวังในระยะต่อไป

1.ความเสี่ยงจากสถานการณ์อุทกภัยที่ส่งผล กระทบต่อรายได้เกษตรกร จากภาวะฝนตกหนักและเกิดอุทกภัยในบางพื้นที่ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2561 และภาวะน้ำหลากและอุทกภัยที่มักเกิดในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ภาคเกษตรและการมีงานทำของเกษตรกร ซึ่งต้องเฝ้าระวังเตรียมมาตรการป้องกันและบรรเทาผลกระทบในช่วงครึ่งหลังของปี 2561

2.ปัญหาการว่างงานของผู้สำเร็จการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เมื่อรวมกับผู้จบการศึกษาใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงานในไตรมาสสามปี 2561 ประมาณ 3.2 แสนคน อาจส่งผลให้มีผู้ที่ยังไม่ได้งานมีจำนวนเพิ่มขึ้นภาครัฐโดยกระทรวงแรงงานได้จัดให้มีบริการ “ศูนย์ที่นี่มีงานทำ (Job Ready Center)” เพื่อจัดหางานให้ผู้จบปริญญาตรี โดยให้บริการจับคู่ตำแหน่งงานระหว่างผู้ที่กำลังหางานทำกับผู้ประกอบการ ให้คำปรึกษาแนะแนวอาชีพ การฝึกอบรมเพิ่มทักษะ และติดตามการมีงานทำรายบุคคล นอกจากนั้น ยังมีศูนย์บริการจัดการงานเพื่อคนไทย (Smart Job Center) เป็นระบบที่เปิดให้ผู้สมัครงานเข้ามาค้นหาตำแหน่งงานที่สถานประกอบการประกาศ และสถานประกอบการเข้ามาค้นหาผู้สมัครงานที่มีคุณสมบัติตามที่สถานประกอบการต้องการซึ่งในช่วง 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 มีผู้มาใช้บริการ 166,160 คน สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 150,000 คน

Advertisement

⦁หนี้สินครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่ยังมีความสามารถในการชำระหนี้

ไตรมาสสองปี 2561 หนี้สินครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น พิจารณาจากยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ที่ขยายตัวร้อยละ 8.0 ด้านความสามารถในการชำระหนี้ เมื่อพิจารณาสัดส่วนหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภคที่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมลดลงจากร้อยละ 2.78 ในไตรมาสหนึ่งปี 2561 เป็นร้อยละ 2.72 ในไตรมาสนี้ โดยลดลงในสินเชื่อเกือบทุกประเภท ยกเว้นสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ภาครัฐมีมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง ทั้งหนี้ในระบบและหนี้นอกระบบโดยมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ในระบบ ได้แก่ การออกมาตรการควบคุมบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลการปรับโครงสร้างหนี้ผ่านโครงการคลินิกแก้หนี้ การจัดอบรมความรู้ทางการเงินและบริหารจัดการให้กับผู้เข้าร่วมโครงการ มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ได้แก่ การออกพระราชบัญญัติห้ามเรียกเก็บดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2560 เพิ่มโทษกับเจ้าหนี้นอกระบบ การกวดขันจับกุมผู้ปล่อยกู้ การเพิ่มช่องทางการเข้าถึงสินเชื่อในระบบ นอกจากนั้นยังดำเนินการให้ความรู้ทางการเงินและแนะแนวการประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้แก่บุคคลทั่วไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการส่งเสริมการสร้างวินัยการออมตั้งแต่วัยเด็ก และการดำเนินชีวิตโดยยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ช่วยแก้ไขปัญหาการก่อหนี้ที่เกิดจากความไม่ระมัดระวังและไม่จำเป็น การเจ็บป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังโดยรวมเพิ่มขึ้น ผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า และต้องเฝ้าระวังโรคที่มักระบาดในช่วงฤดูฝน

ไตรมาสสองปี 2561 จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคเฝ้าระวังโดยรวมเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2560 ร้อยละ 20.4 โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเด็กอายุ 10-14 ปี แต่ผู้เสียชีวิตส่วนมากเป็นกลุ่มวัย 15 ปีขึ้นไป ภาครัฐร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ครู นักเรียน และประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายทุกสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ต้องเฝ้าระวังโรคที่มักระบาดในช่วงฤดูฝน ได้แก่ โรคไข้หวัดใหญ่พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 32.7 และโรคมือ เท้า ปาก เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี รวมทั้งโรคปอดอักเสบพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.3 พบได้ทุกช่วงอายุ เด็กอายุน้อยกว่า 4 ปีและผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไปมีโอกาสเกิดความรุนแรงของโรคได้มากกว่า ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อไวรัสอาร์เอสวี
ที่สามารถติดเชื้อได้โดยตรงและเกิดเป็นโรคแทรกซ้อนรุนแรงในกลุ่มทารกที่คลอดก่อนกำหนด หรือมีความผิดปกติของหัวใจแต่กำเนิด พบมากในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และทารก

⦁ค่าใช้จ่ายและจำนวนผู้สูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงอย่างต่อเนื่อง

ค่าใช้จ่ายในการบริโภคบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วร้อยละ 2.4 และ 1.3 ตามลำดับ โดยค่าใช้จ่ายในการบริโภคบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์คิดเป็นร้อยละ 3.5 ของค่าใช้จ่ายครัวเรือน สำหรับจำนวนผู้สูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พบว่าคนไทยมีอัตราการสูบบุหรี่และดื่มสุราลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการสูบบุหรี่ลดลงจากร้อยละ 19.9 ในปี 2558 เป็นร้อยละ 19.1 ในปี 2560 ขณะที่อัตราการดื่มสุราลดลงจากร้อยละ 34.0 เป็นร้อยละ 28.4

ทั้งนี้ ในระยะที่ผ่านมา รัฐและภาคส่วนต่างๆ ได้มีมาตรการและความร่วมมือในการลดการสูบบุหรี่ของคนไทย อาทิ มาตรการรณรงค์ลดการสูบบุหรี่ ได้แก่ โครงการ 3 ล้าน 3 ปี เลิกบุหรี่ทั่วไทยเทิดไท้องค์ราชันมีผู้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2559 จนถึงปัจจุบัน จำนวน 1.2 ล้านคน คิดเป็นประมาณร้อยละ 11 ของผู้สูบบุหรี่ มีผู้เลิกบุหรี่ได้อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 6 เดือน จำนวน 129,698 คน โครงการสถานศึกษาปลอดบุหรี่เพื่อป้องกันผู้เสพรายใหม่ การประกาศห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่บริเวณชายหาด 24 แห่งใน 15 จังหวัดเพื่อความสะอาดและสิ่งแวดล้อมปลอดควันบุหรี่เกิดผลดีต่อสุขภาพนักท่องเที่ยว และจากการประเมินผลการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปี 2560 พบว่า การรณรงค์ทำให้กลุ่มผู้ดื่มร้อยละ 85.2 เกิดความตระหนักในพิษภัยและพยายามลด ละ เลิก เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยมีการปรับเปลี่ยนจากการดื่มปกติเป็นงดดื่มตลอดช่วงเข้าพรรษาร้อยละ 37.9 งดเป็นบางช่วงร้อยละ 15.1 และไม่งดแต่ลดร้อยละ 14.5 การเลิกเหล้าเป็นเวลา 3 เดือน สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของครัวเรือนได้เฉลี่ย 1,844 บาท

⦁คดีอาญารวมยังเพิ่มขึ้น ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการป้องกันและปราบปราม

คดีอาญารวมในไตรมาสสองปี 2561 เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.1 จากไตรมาสเดียวกันของปี 2560 โดยคดีชีวิตร่างกายและเพศ คดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ ลดลงร้อยละ 3 และ 9.2 ตามลำดับ ขณะที่คดียาเสพติดเพิ่มขึ้นร้อยละ 46.5 ซึ่งเป็นสัดส่วนร้อยละ 84 ของคดีอาญารวม จากการที่หน่วยงานภาครัฐเฝ้าระวัง สกัดกั้น ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด นำไปสู่การเปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมกำหนดการขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภายใต้แผนประชารัฐร่วมใจ ปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2561 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดปริมาณผู้เข้าสู่การกระทำผิด อีกทั้งนำคนออกจากวงจรการกระทำผิดอันเกี่ยวกับยาเสพติดให้เห็นอย่างชัดเจน และไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และสังคม การขจัดปัญหายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล จะต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจ จากทุกภาคส่วน รวมทั้งการช่วยเหลือผู้เสพยาเสพติดซึ่งถือเป็นเหยื่อของผู้ค้ายาเสพติดควรได้รับโอกาสและการบำบัดรักษา เพื่อให้มีโอกาสได้กลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสังคมอีกครั้ง

⦁การเกิดอุบัติเหตุยังคงเพิ่มขึ้น ภาครัฐเพิ่มมาตรการป้องกันและลดความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน

สถานการณ์การเกิดอุบัติเหตุจราจรทางบกในไตรมาสสองปี 2561 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปี 2560 ร้อยละ 23.3 มูลค่าความเสียหายเพิ่มขึ้นร้อยละ 63 แต่จำนวนผู้เสียชีวิตลดลงร้อยละ 21 สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดเป็นการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด รถที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็นรถจักรยานยนต์ร้อยละ 38.6 ของประเภทรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุทั้งหมด ภาครัฐให้ความสำคัญกับมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุในประเด็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง การรณรงค์การสร้างวินัยจราจรแก่ผู้ขับขี่ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและคุ้มครองความปลอดภัยทางถนนที่นำไปสู่การลดอุบัติเหตุ อาทิ การปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพและทันสมัย ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. … และการบูรณาการพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 และพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ให้เป็นกฎหมายเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image