สถานีคิดเลขที่12 : ตู่เต็ม100-แล้วพี่ป้อม… : โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

ในวาระ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) ก่อตั้งครบรอบ 7 ปี

นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ตอบคำถามผู้สื่อถามว่าให้คะแนนความจริงใจของรัฐบาลนี้ในการร่วมต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นที่ผ่านมากี่คะแนน

“ขอให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เต็มร้อยคะแนน แต่ยอมรับว่ายังมีบุคคลใกล้ตัว หลายคนที่สังคมตั้งข้อสงสัย”

คือคำตอบของนายประมนต์

Advertisement

ดูเหมือนดี แต่ฝ่าย “ข่าว” ของรัฐบาล

คงจะต้องชั่งใจให้ดีว่า จะให้ค่าคำพูดของนายประมนต์อย่างไร

หากรีบกระโดดเข้าฮุบร่วมเชิดชู พล.อ.ประยุทธ์ ตามการเชิดชูก็อดเป็นห่วงไม่ได้

Advertisement

เพราะขณะที่ อีกฟากถูก “เป่า” ให้ลอยฟูฟ่อง

คนอีกจำนวนหนึ่ง ที่นายประมนต์เรียกว่า “บุคคลใกล้ตัว” ก็ดูเหมือนจะถูกกระทืบให้จมดิน ลึกลงไปเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน

ใครบ้างละ

ต้องอ่านคำให้สัมภาษณ์ของ นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชน 35

“…ตามที่นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นออกมาให้คะแนนรัฐบาลเรื่องต่อต้านการทุจริตเต็ม 100 คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 2535 และภาคประชาชนไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง รัฐบาลสอบตกเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ประชาชนยังคาใจในปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นรัฐบาลนี้หลายเรื่อง เช่น เรื่องนาฬิกา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม ที่ ป.ป.ช. ยังยื้อเวลาการตรวจสอบ ปัญหาการทุจริตในองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (อผศ.) เรื่องการขุดลอกคลอง ปัญหาการทุจริตช่วยคนลำบากของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปัญหาทุจริตในกระทรวงศึกษาฯ ข้อสงสัยปัญหาทุจริตในการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ ปัญหาการเอื้อประโยชน์นายทุนขนาดใหญ่ ปัญหาทุจริตร้านธงฟ้าประชารัฐขายเกินราคา ปัญหาการเอาที่ดินมักกะสันรวมเข้ากับโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัญหาทุจริตในกองทุนอนุรักษ์พลังงานของกระทรวงพลังงาน ปัญหาการซื้อหุ้นเหมืองถ่านหิน ปัญหาทุจริตโรงไฟฟ้าชีวมวลของกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ปัญหาเหล่านี้ยังไม่ได้รับการชี้แจงและแก้ไข ขนาดไม่มีฝ่ายค้านตรวจสอบในสภายังมีเรื่องมากมายขนาดนี้ หากมีการตรวจสอบจะมีเพิ่มมากขึ้นขนาดไหน…”

ประเด็นที่นายอดุลย์ หยิบขึ้นมาพูดถึง จัดเป็น “บุคคลใกล้ตัว” หรือไม่ โปรดลองพิจารณาดู

ถ้าใช้การบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ท่ามกลางการทุจริต จะมีประโยชน์อะไร

นั่นด้านหนึ่ง

อีกด้านหนึ่ง มีเสียงโอดครวญจาก คนใกล้ตัว ว่า ไม่ได้ทำอะไรผิด ทำดีมาตลอด แต่ก็ถูกด่า ไม่เลิก

คนที่พูดชัดถ้อยชัดคำที่สุด และได้ยินล่าสุด ก็คือ “พี่ใหญ่” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ของ พล.อ.ประยุทธ์ นั่นเอง

“ผมพอแล้ว ถูกด่าอยู่ฝ่ายเดียว” สะท้อนความน้อยอกน้อยใจ อยู่มากทีเดียว

ซึ่งก็น่าเห็นใจ เพราะ พล.อ.ประวิตร เหลียวมองไปรอบตัว ไม่เห็นมีใครออกมาช่วยปกป้อง

แถมยัง ร่วมซ้ำเติม ด้วยความรู้หรือไม่รู้ตัวก็ตาม

เช่นการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ปรับปรุงคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ใหม่

ปรากฏว่ามีการถอดชื่อ พล.อ.ประวิตร ออกไป

ขณะที่มีชื่อ นายต่อตระกูล ยมนาค ซึ่งเคยออกมาตั้งข้อสังเกตถึงการดำเนินการที่ล่าช้าในการตรวจสอบกรณีนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร

และแสดงความกังวลต่อบทบาทของ พล.อ.ประวิตรที่กำลังถูกตรวจสอบเรื่องที่มาของนาฬิกาหรู

นายประมนต์อาจปรบมือให้ พล.อ.ประยุทธ์ในการตัดสินใจดังกล่าว

ส่วนจะนำมาสู่การให้ 100 คะแนนเต็มแก่ พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ ในเรื่องความจริงใจปราบโกง

ใครเจอนายประมนต์ ช่วยถามที

แต่ถ้าเจอ พล.อ.ประวิตร อย่าไปถามเรื่องนี้เด็ดขาด

พี่ก็น้อยใจเป็นนะโว้ย

สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image