เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 กันยายน ที่วัดป่าสวนธรรมร่วมใจ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรค รปช. นายสุริยะใส กตะศิลา พร้อมด้วยทีมงานโฆษกพรรค เดินทางมารับฟังปัญหาและความคิดเห็นของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนภายในจังหวัดยโสธร โดยมีน.ส.กุลธิดา เจนวัฒนา นายประยงค์ แก่นลา ว่าที่ผู้สมัครพรรค รปช. เขตยโสธร น.ส.ณิรัฐกานต์ ศรีลาภ หรือ บ็อบบี้ อดีต ส.ส.เขต 1 จังหวัดยโสธร พรรคประชาธิปัตย์ และประชาชนกว่า 150 คนให้การต้อนรับ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ทั้งในและนอกเครื่องแบบร่วมสังเกตการณ์
นายสุเทพ กล่าวว่า ได้นั่งฟังความคิดเห็นและข้อเสนอของ 7 กลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยสิ่งที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนคิดและพูดออกมา ตรงกับพรรค รปช.คิด ประชาชนอย่างพวกเรา ความคิดความอ่านมักจะไปในแนวทางเดียวกัน เราคิดถึงประโยชน์สุขของประชาชนโดยส่วนรวมเป็นหลัก เราคิดถึงความอยู่รอดปลอดภัยของประชาชนและของประเทศชาติ ท่านทั้งหลายกังวลใจเรื่องสุขภาพ และความปลอดภัยในชีวิต เสียงเรียกร้องที่จะให้เปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตเกษตรของบ้านเราให้มาเป็นเกษตรอินทรีย์ ทำอย่างไรคนไทยจะได้กินอาหารที่ปลอดภัย วันนี้ตนคิดว่าสมควรที่จะได้ประกาศเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ทั้ง 5 จังหวัด โดยมีพื้นที่ปลูกข้าว 2 ล้านกว่าไร่ โดย 2 ล้านกว่าไร่ส่งเสริมให้ปลูกข้าวหอมมะลิแบบเกษตรอินทรีย์ จะมีการสร้างยี่ห้อและส่งเสริมการตลาดเพื่อให้พี่น้องได้ขายสินค้าที่มีประสิทธิภาพที่สุดในโลก
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ขอเป็นตัวแทนหัวหน้าพรรค ตอบยืนยันให้พี่น้องเลยว่าข้อเสนอที่พี่น้องเสนอมาวันนี้ พวกตนรับเป็นนโนบายของพรรค รปช.ขอความร่วมมือและร่วมใจพี่น้องประชาชนทั้งหลายสู้เพื่อสิ่งนี้ หากไม่มีพี่น้องประชาชนสนับสนุน คงทำไม่ได้ สู้ไม่ได้ ส่วนเรื่องโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ตนได้รับฟังความคิดเห็นนั้น ตนมองว่าทางบริษัทได้ลงมือและผ่านกระบวนการขออนุญาตทางกฎหมายไปมากพอสมควรแล้ว ตนไม่มีแรงที่จะไประงับได้ แต่จะไปติดตามเรื่องดังกล่าวให้
นายสุเทพ กล่าวต่ออีกว่า พวกตนที่มาทั้งหมด และมีพี่น้องร่วมอุดมการณ์เดียวกัน 607 คนได้ตัดสินใจร่วมกันที่จะสร้างพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชนขึ้นมาในประเทศไทย ประสบการณ์ในชีวิต ทำให้เห็นแล้วว่าเวลาบ้านเมืองมีวิกฤต พรรคการเมืองเหล่านั้นจะกลายเป็นภาระของประชาชนที่จะออกไปต่อสู้เพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน ซึ่งลงทุนกันแพงมาก ไม่ใช่แค่เวลา เงินทองหรือแม้กระการทั่งความสุขสบาย แต่มันแลกมาด้วยชีวิต ตนไม่ไหวแล้วที่จะรอให้บ้านเมืองเกิดปัญหาหนักจนเราต้องไปนอนกลางดินกินกลางถนนเสี่ยงชีวิตกันอีก วันนี้จึงเป็นทางเดียวที่ต้องเข้ามาต่อสู้ในระบบ สู้ด้วยกระบวนการทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะต้องมีพรรคการเมืองเป็นเครื่องมือ ปัญหามีอยู่ว่าหากไม่ใช่พรรคการเมืองของประชาชนมักจะคิดไม่เหมือนประชาชน ตนยกตัวอย่างเช่น คสช.เขียนรัฐธรรมนูญเสร็จ มีพรรคการเมืองที่เป็นพรรคใหญ่ในประเทศไทยประกาศไม่เอารัฐธรรมนูญ แต่ประชาชนทั้งประเทศต้องการรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว มีประชาชนต้องการให้รับธรรมนูญฉบับนี้มาประกาศใช้เพราะเขาเห็นว่าบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้แสดงให้เห็นแนวทางในการพาประเทศเดินหน้า ได้พูดถึงการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นความหวังของประชาชน เพราะประชาชนเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ โดยทันที หากปล่อยนานกว่านี้จะเสียหายมาก
นายสุเทพ กล่าวย้ำอีกว่า ในพรรค รปช.จึงตกลงกันว่าจะไม่มีการเล่นการเมืองแบบเดิม เราไม่ทำแบบน้ำเน่า พรรคการเมืองหรือนักการเมืองคิดอีกอย่างประชาชนคิดอีกอย่าง ตรงนี้ที่ทำให้ประชาชนตัดสินใจแล้วว่าถึงเวลาสร้างพรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนจริงๆ พรรคการเมืองที่เป็นของประชาชนคือประชาชนต้องเป็นผู้ลงทุนที่จะมากำหนดตัวบุคคลที่มาเป็นผู้บริหารพรรคการเมือง ต้องให้ประชาชนเป็นคนมีอำนาจที่จะกำกับความประพฤติของนักการเมือง ที่สำคัญกว่านั้นต้องให้ประชาชนเป็นคนกำหนดทิศทางของประเทศ กำหนดนโยบายที่จะใช้ในทางการเมือง วันนี้ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนจะเป็นคนกำหนดนโยบายของประเทศไทย พรรคการและนักการเมืองเป็นผู้รับใช้ประชาชน ที่ตนพูดมาคือภาพรวมของพรรค รปช.
“ผมรอให้ คสช.ประการปลดล็อกที่จะสามารถทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ผมจะออกเดินทั่วประเทศเพราะผมไม่มีอะไรจะให้พรรค รปช.ได้ นอกจากรองเท้าเก่าๆ คู่นี้ที่จะเดินไปชวนพี่น้องประชาชนเป็นสมาชิกพรรค พอได้สมาชิกพรรคเป็นแสนคน เราจะประชุมสมัชชาพรรคพร้อมเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรค เพื่อเตรียมตัวเข้าสู่ช่วงเวลาของการรณรงค์ของการหาเสียงเลือกตั้ง แต่ผมยืนยันว่าจะไม่ลงเลือกตั้งและไม่เป็นกรรมการบริหารพรรค แต่พรรค รปช.นี้ผมเชื่อว่าได้เป็นรัฐบาลแน่นอนเพราะเป็นพรรคของมวลมหาประชาชน ใครก็อยากจะช่วยไปร่วมรัฐบาล ถ้าหากพรรคถูกช่วยไปร่วมรัฐบาล ผมก็จะไม่ขอรับตำแหน่งอะไรเลย วันนี้ผมไม่เป็นนักกีฬา ผมขอเป็นโค้ชอย่างเดียว ออกแรงยืนปราศรัยขึ้นเวทีไปกับพี่น้องทุกอย่าง ท่านทั้งหลายถ้าคิดเหมือนผมมาร่วมกัน”นายสุเทพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ปรึกษาพรรค รปช. พบปะพี่น้องประชาชนเพื่อรับทราบปัญหาความเดือนร้อนแล้ว ได้เดินทางไปจังหวัดอำนาจเจริญต่อไป
