พลันที่ นายวัฒนา เมืองสุข ตกอยู่ภายใต้การจับกุม ดูเหมือนกับว่า “คสช.”จะสามารถ “ควบคุม” ทุกอย่างได้
เหมือนที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาสำทับ
เหมือนที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ออกมาสำทับ
แต่หากฟังจาก “แถลง” อันออกมาจากปาก พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคสช.
สถานการณ์ กลับไม่เป็นอย่างนั้น
อย่างน้อยชาวบ้านก็รับรู้ว่ามี “การเคลื่อนไหว” อย่างต่อเนื่องติดตามมา
อาจไม่ใช่จาก นายวัฒนา เมืองสุข
กระนั้น ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะไปหยุดยั้งมิให้ น.ส.วีระดา เมืองสุข เคลื่อน
เคลื่อนจาก EU ไปยังสถานทูต USA
กระนั้น ก็ยากเป็นอย่างยิ่งที่จะไปหยุดยั้งมิให้ “กลุ่มพลเมือง โต้กลับ” เคลื่อน
เคลื่อนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังช่องนนทรี
ตรงนี้ต่างหากที่อยู่เหนือ “การควบคุม”
ขณะเดียวกัน กล่าวสำหรับตัวของ นายวัฒนา เมืองสุข เหมือนกับไม่มีหนทางเลือก
ถูกย้ายจากมทบ.11 ไปยังพล.ร.9 กาญจนบุรี
แม้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ กับ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ จะเดินทางไปเยี่ยมพร้อมกับ “อุ้มไก่”ไปด้วย
แต่ก็ไม่สามารถเข้าพบได้
อย่างเก่งที่ นพ.เหวง โตจิราการ และ นางธิดา ถาวรเศรษฐ นำมาประกอบก็เพียง “ภาพถ่าย”
เท่ากับเป็นการเยี่ยมผ่านภาพ นายวัฒนา เมืองสุข
กระนั้น แถลงล่าสุดจาก พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 คือ
นายวัฒนา เมืองสุข ไม่ยอมกินข้าว
เหตุผลที่ นายวัฒนา เมืองสุข อ้างก็คือ “ได้สัญญากับบุตรสาวไว้”
เรื่องนี้”สะท้อน”อะไร
สะท้อน 1 นายวัฒนา เมืองสุข กับ น.ส.วีระดา เมืองสุข ร่วมด้วยช่วยกันในการเคลื่อนไหว
นายวัฒนา เมืองสุข อดข้าว”ประท้วง”
น.ส.วีระดา เมืองสุข เดินสายยื่นหนังสื่อร้องเรียนไปยังนานาชาติ
เป้าหมายเพื่อให้ปลดปล่อย นายวัฒนา เมืองสุข
สะท้อน 1 บังเอิญการเคลื่อนไหวของ น.ส.วีระดา เมืองสุข มิได้โดดเดี่ยว
หากแต่พรรคเพื่อไทยก็มิได้อยู่นิ่งเฉย
หากแต่กลุ่มพลเมืองโต้กลับก็มิได้นิ่งเฉย ประกาศเคลื่อนไหว ต่อเนื่องจนกว่า นายวัฒนา เมืองสุข จะได้รับอิสระ
นี่คือ “สถานการณ์”ที่เริ่มยากต่อ “การควบคุม”
