กลุ่มสามมิตรประกาศหนุน ‘บิ๊กตู่’ นั่งนายกฯต่อ (คลิป)

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 13 กันยายน ที่พีรยารีสอร์ท ต.โคกสูง อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขากลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า กรณีราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561 และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.2561 ทางกลุ่มสามมิตรได้เตรียมสรุปแนวทางการขับเคลื่อนกลุ่มว่าจะไปเข้าสังกัดพรรคการเมืองใด คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะชัดเจน หลังเดินทางรับฟังปัญหาของประชาชนทั่วประเทศมาแล้ว 4-5 เดือน ได้รับรู้ถึงปัญหา และความต้องการของพี่น้องประชาชนหลายเรื่อง เช่น พื้นที่ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ชาวไร่ ชาวนา ต้องการให้ช่วยเหลือลดค่าการผลิต โดยเฉพาะเรื่องน้ำมัน ซึ่งชาวบ้านอยากได้บัตรส่วนลดเติมน้ำมันตามปั๊มต่างๆ โดยอาจกำหนดให้เติมน้ำมันได้ไม่เกินครัวเรือนละ 1,000 ลิตรต่อฤดูกาล ถ้ารัฐบาลเห็นถึงความสำคัญของชาวไร่ ชาวนา ก็ควรจะจัดโควต้าให้ตามความเหมาะสม

“เมื่อเราได้รับรู้ปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริงแล้ว และนำไปกำหนดเป็นนโยบายของพรรค คาดว่าจะมีโอกาสได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสูงแน่นอน ส่วนเรื่องสังกัดพรรค คงต้องเป็นแกนนำกลุ่มสามมิตร เช่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และนายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะเป็นผู้ตัดสินใจประสานฝ่ายรัฐบาล หรือพรรคอื่นๆ ที่จะไปร่วม และไม่จำเป็นว่าต้องเป็นแกนนำกลุ่มสามมิตรเท่านั้นที่จะเป็นหัวหน้าพรรค ใครก็ได้ที่เห็นว่าสมควร กลุ่มสามมิตรพร้อมที่จะสนับสนุนทั้งหมด เพียงแต่ว่าขณะนี้กลุ่มสามมิตรมีคนที่มีศักยภาพอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งอดีตรัฐมนตรี, ส.ส., ส.ว., นักการเมืองท้องถิ่น และผู้นำชุมชน อยู่ในกลุ่มไม่ต่ำกว่า 200 คนแล้ว” นายภิรมย์ กล่าว

นายภิรมย์กล่าวอีกว่า ส่วนการสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ตอนนี้เห็นมีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ซึ่งจากโพลของหลายสำนักที่สำรวจมาถึง 3 ครั้ง ว่าอยากให้ใครเป็นนายกฯ ก็ออกมาเช่นนี้ ขนาดอดีต พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก่อนที่จะได้เป็นนายกฯ ยังมีโพลสำรวจอยู่อันดับที่ 5 ดังนั้น ไม่มีอะไรต้องสงสัยอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้ ชาวนา ชาวไร่ ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ล้วนแต่ให้ความรัก พล.อ.ประยุทธ์ด้วยกันทั้งสิ้น เนื่องจากเร็วๆ นี้ รัฐบาลกำลังจะโอนเงินช่วยเหลือค่าการผลิตให้ชาวไร่ ชาวนา 5 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละ 18,000 บาท และผู้มีรายได้น้อยกว่า 18 ล้านคน กำลังจะได้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐคนละ 500 บาทต่อเดือน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้ใจชาวไร่ ชาวนาไปเต็มๆ

ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่มีกระแสข่าวว่า พรรคชาติพัฒนาของนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ตัดสินใจยุบพรรคเพื่อเตรียมที่จะเข้ารวมกับพรรคพลังประชารัฐนั้น นายภิรมย์กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ดี เพราะถ้ามารวมกับพรรคพลังประชารัฐ ก็ถือว่ามีอนาคตทางการเมืองสดใส เนื่องจากล่าสุดที่ จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนา มี ส.ส.ที่ชนะเลือกตั้งแค่ 3 คน ทั้งที่ จ.นครราชสีมา ถือว่าเป็นเมืองหลวงของพรรคชาติพัฒนา ดังนั้น หัวหน้าพรรคชาติพัฒนาคงจะมองเห็นว่า ถ้าสถานการณ์เป็นเช่นนี้อยู่ โอกาสที่จะทำการเมืองไปข้างหน้าคงจะลำบาก แต่ถ้าได้มาเข้าร่วมกับพรรคการเมืองใหญ่ โอกาสที่จะได้ร่วมผลักดันโครงการใหญ่ๆ คงจะมีมากกว่า ส่วนเรื่องที่จะมีความซ้ำซ้อนในการวางตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หรือไม่นั้น วันนี้ทุกคนก็อยากมีอนาคต ดังนั้น ต้องไปแข่งขันกันเรื่องของการเข้าหาประชาชน ไปรับทราบปัญหาของประชาชนก่อน หลังจากนั้นค่อยมาพิจารณาว่าใครจะมีโอกาสดีกว่ากัน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า เวลาที่เหลือน้อย หลังรัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) คลายล็อกแล้ว จะมีเวลาทันต่อการหาเสียงหรือไม่นั้น นายภิรมย์กล่าวว่า การหาเสียงไม่จำเป็นต้องขึ้นเวทีปราศรัยเหมือนสมัยก่อนแล้ว แต่ต้องเดินเข้าหาประชาชนเหมือนที่ตน และกลุ่มสามมิตรทำอยู่ในขณะนี้ เพราะจะได้สอบถามปัญหา และความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งนักการเมืองทุกคนมีเพาเวอร์ของตัวเองอยู่แล้ว ดังนั้น ไม่ต้องไปซีเรียสว่ารัฐบาลจะปลดล็อกเมื่อใด เสียเวลาเปล่าๆ ฉะนั้น ไปตั้งแต่ตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่จับหรอก และเชื่อว่ารัฐบาล คสช.ก็ไม่จับแน่ เนื่องจากไปทำความดี ไปสอบถามปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชน ไปช่วยให้ชาวบ้านทุกกลุ่ม ทุกสี มีความสมานฉันท์กัน ถ้าทำแล้วพี่น้องประชาชนได้ประโยชน์ ขอให้เพื่อนนักการเมืองทั้งหลายทำได้เลย ขออย่างเดียวอย่าไปปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกในสังคม และอย่าทำผิดตามคำสั่ง คสช.เท่านั้นพอ

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กรณีมีหลายพรรคการเมืองร้องเรียนเรื่องการที่กลุ่มสามมิตรลงพื้นที่หาเสียง แต่ คสช.ไม่เอาผิดอะไร เป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นๆ หรือไม่ นายภิรมย์กล่าวว่า ยังไม่เห็นว่ามีพรรคการเมืองไหนทำหนังสือร้องเรียน เพราะยิ่งตนลงพื้นที่ไป ประชาชนยิ่งได้ประโยชน์ จึงไม่กลัวอะไร และตนไม่ต้องไปชี้แจงอะไรกับ กกต.เพราะไม่ได้เป็นลูกน้อง กกต.และยังไม่ได้สังกัดพรรคการเมืองไหนเลย จะผิดกฎหมาย กกต.ตรงไหน แต่ถ้า คสช.จะเรียกตนไป ก็พร้อมที่จะไป ซึ่ง คสช.ควรจะขอบคุณด้วยซ้ำ ที่ได้ลงพื้นที่ไปชวนกลุ่มขัดแย้งต่างๆ มาให้จับมือสามัคคีปรองดองกันได้

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image