ไม่ว่าการเปิดตัว นายอลงกรณ์ พลบุตร เป็นแคนดิเดตในตำแหน่ง หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าการปล่อยข่าว นพ.วรงค์ เดชกิจวิ กรม ให้เป็นอีกคนหนึ่ง
ทั้งหมดล้วนเป็น “กลยุทธ์”
หากสรุปตามสำนวนจีนโบราณก็คือ เป็นปฏิบัติการในแบบที่เรียกว่า “โยนหินถามทาง”
พลันที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร ออกมา
ก็โดนหวดผ่านกระบวนท่า 1 ของ”ไม้เท้าตีสุนัข”อันส่งมาจากประมุขระดับอั้งชิดกง
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ย่อมรู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
การนัดพบระหว่าง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม กับ นายถาวร เสนเนียม จึงมากด้วยความรัดกุมและเปิดเผย
จำได้หรือไม่ว่าเมื่อแรกที่ นายถาวร เสนเนียม หวนกลับพรรคประชาธิปัตย์ ก็มีข่าวในลักษณะหยั่งเชิงเกี่ยวกับตำแหน่งหัวหน้าพรรค
พร้อมกับหยิบชื่อ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ขึ้นมาเป็นโมเดลในฐานะผู้ท้าชิง
แต่เมื่อมีแรงต้านจากภายใน ทุกอย่างก็เงียบ
การเปิดตัว นายอลงกรณ์ พลบุตร จึงดำเนินไปในลักษณะนำร่อง เพราะรู้อยู่เป็นอย่างดีว่าโอกาสที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร จะเบียดแทรกเข้าไปลำบากยากเข็ญยิ่ง
ไม่เพียงต้องผ่านการรับรองจากสมาชิก 4,000 จากทั้ง 4 ภาค หากแต่ยังต้องผ่านการรับรองจาก 40 อดีตส.ส.
กระนั้น เมื่อปะ”ไม้เท้าตีสุนัข”ก็รู้โดยพลัน
จังหวะก้าวในการผลักดัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม จึงมากด้วยความสุขุมเปี่ยมด้วยคัมภีรภาพ
ยิ่งอ่านรหัสยนัยจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ยิ่งกระจ่าง
ทุกอย่างยังดำเนินไปตามแผนเดิมที่ขบคิดเมื่อ นายถาวร เสนเนียม และอดีตแกนนนำกปปส.เดินเข้าพรรคประชาธิปัตย์
เพียงแต่ยังอยู่ในขั้น “โยนหินถามทาง” อีกครั้ง
1 เพื่อหยั่งว่าอีกฝ่ายจะต้านยันอย่างไร ขณะเดียวกัน 1 เพื่อ หยั่งท่าทีภายในพรรคว่าเอนเอียงมาทางปีกของตนมากน้อยเพียงใด
หากมีความมั่นใจเมื่อใด ท่วงทำนอง แอน แอ่น แอ๊นย่อมตามมาเมื่อนั้น