| ที่มา | มติชนรายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | จำลอง ดอกปิก |
บ้านเมืองขยับเดินหน้าอีกก้าว เงื่อนไขทางกฎหมาย ลากยื้อเลือกตั้งหมดสิ้น
กฎหมายลูก สำคัญและจำเป็นต่อการเลือกตั้ง 2 ฉบับสุดท้าย พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และฉบับได้มาซึ่ง ส.ว.ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา 12 กันยายนที่ผ่านมา
นั่นเท่ากับว่า เริ่มนับ 1 ถอยหลังสู่เลือกตั้งได้ทันที เพียงแต่เวลางอก แทนที่ต้องจัดเลือกตั้งภายใน 150 วัน ก็บวกเพิ่ม 90 วัน
รอฉบับเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ 3 เดือน ในวันที่ 10 ธันวาคม 2561
จะนับถอยหลัง 240 วันนับจากลงราชกิจจาฯก็ได้ หรือนับ 150 วัน ดีเดย์ 10 ธันวาคม ฤกษ์ดีวันรัฐธรรมนูญก็ได้
แต่ไม่ว่านับจากวันไหน
การที่องค์ประกอบรัฐธรรมนูญครบ ย่อมทำให้ข้อวิตก จะมีเลือกตั้งหรือไม่ มีคำตอบชัดเจน ว่ามีอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. คำนวณปฏิทิน และให้คำมั่น ปักธงล่วงหน้าไว้แล้ว จะจัดให้มีการเลือกตั้ง วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562
ไม่ใช้เวลาเต็มเพดาน 150 วัน ใช้แค่ครึ่งเดียว
แต่กรณีเลวร้าย-ช้าสุด อย่างไรเสีย การเลือกตั้งก็ย่อมต้องเกิด ต้องจัดให้มีในวันที่ 5 พฤษภาคม 2562 เป็นวันอาทิตย์สุดท้ายที่อยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ 150 วัน
มีเลือกตั้งแน่นอน อย่างไม่ต้องสงสัย
หากพลิกผัน ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าอ้างเหตุใด และโดยวิธีการยกเว้นบังคับใช้ใด บ้านเมืองคงย่ำอยู่ในวังวนสถานการณ์พิเศษ การปกครองแบบพิเศษไปอีกนาน ประตูเลือกตั้งถูกลั่นดาลปิดตาย
แต่สถานการณ์เลวร้ายอย่างนี้คงไม่เกิด
เนื่องจากโดยกติกา และสถานการณ์บ้านเมืองเดินทางถึงจุดที่ต้องเลือกตั้ง คืนอำนาจให้กับประชาชนแล้ว
เรื่องเลือกตั้ง ไม่เลือกตั้ง จึงไม่เป็นประเด็นปัญหาอีกต่อไป
ระยะอันใกล้นี้ จะมีก็แต่เสียงเรียกร้อง คสช.ปลดล็อก เลิกกฎห้ามพรรคการเมืองเคลื่อนไหว ทำกิจกรรม โดยไม่ต้องรอ กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้
เนื่องจากการจำกัดบริเวณพรรคการเมือง นักการเมือง ละเมิดสิทธิ เสรีภาพขั้นพื้นฐาน ขัดต่อบรรยากาศบ้านเมือง ที่เข้าสู่โหมดประชาธิปไตย
การแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองควรเป็นไปอย่างยุติธรรม
สถานการณ์ในวันนี้ เกิดความลักลั่น จากการใช้ดุลพินิจ พรรคหนึ่งทำได้ อีกพรรคทำไม่ได้ มีช่องโหว่กฎหมาย ให้กลุ่มศรีธนญชัยเคลื่อนไหวทำกิจกรรม
เกิดเป็นภาพตัด สองมาตรฐาน
สังคมตั้งคำถาม กลายเป็นความไม่เชื่อมั่น การเลือกตั้งทั่วไปต้นปี 2562 จะบริสุทธิ์ ยุติธรรมหรือไม่
เมื่อแค่โหมโรง ยังไม่ลงสนามจริง ภาพของการเอารัดเอาเปรียบ มีปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจน
การปลดล็อกนั้น เป็นกระบวนการเดียวกันกับการจัดการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม อันเป็นหัวใจสำคัญของการเลือกตั้ง
เป็นเรื่องเดียวกันกับที่ นักวิชาการเรียกร้อง เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเรียกร้อง
เพื่อให้การเลือกตั้งถูกต้องชอบธรรม สะท้อนเจตนารมณ์ ความต้องการของประชาชนให้มากที่สุด
ไม่ใช่แค่พิธีกรรมฟอกคนเข้าสู่อำนาจเท่านั้น
แต่ต้องได้รับการยอมรับด้วย
การจัดการเลือกตั้งทั่วไป ให้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อเข้าสู่บริบทของการจัดเลือกตั้งตามกฎหมาย
แต่ก่อนมีพระราชกฤษฎีกา
รัฐบาล คสช.มีบทบาทหน้าที่อย่างสำคัญ ในการสร้างบรรยากาศ ให้ประชาชนเชื่อมั่นการเลือกตั้งภายใต้การบริหารจัดการของรัฐบาลชูธงปฏิรูปการเมือง
ด้วยการปูทาง เพื่อเป็นหลักประกัน เสรี และยุติธรรม
โละรื้อกฎเหล็ก ข้อห้าม โซ่ตรวนพันธนาการพรรคการเมือง ออกให้หมด
ไม่ให้เป็นกับดัก อุปสรรค เงื่อนไขเอาผิด
การส่งสัญญาณตั้งแต่วันนี้ จะปลุกสร้างความเชื่อมั่นให้บังเกิดขึ้นได้
เมื่อมีการเลือกตั้งอย่างเสรี-เป็นธรรม
ไม่ว่าผลออกมาอย่างไร ก็ย่อมได้รับการยอมรับ ทุกฝ่ายเคารพการตัดสินใจ-เจตนารมณ์ของประชาชน ที่แสดงออกผ่านการใช้สิทธิเลือกตั้ง
จะสืบทอด นั่งต่อ ไม่มีใครว่า
หากมาจากฉันทานุมัติโดยชอบธรรม
