“ณัฐวุฒิ”ชม รัฐบาลแก้ปัญหายางถูกทาง แนะระวังปากไม่ให้เฉี่ยวยางสต๊อกเป็นพอ(คลิป)

-

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคายางของรัฐบาลว่า หลักคิดมาถูกทาง เหมือนๆ กับที่ทุกรัฐบาลคิด ด้วยการเพิ่มสัดส่วนการใช้ยางในประเทศให้สูงขึ้น เนื่องจากการใช้ยางในประเทศมีเพียง 14% ส่งออก 86% สถานการณ์เช่นนี้ทำให้กลไกการซื้ออยู่ในมือผู้ซื้อหรือต่างประเทศ ยุทธศาสตร์การเพิ่มปริมาณการใช้ยางภายใน ทุกรัฐบาลก็ประกาศเหมือนกัน แต่ รบ.ขาดการลงมือปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม

สมัยที่ตนเป็น รมช.เกษตรฯได้ประกาศยุทธศาสตร์นี้เช่นกัน ในช่วงเวลานั้นเราซื้อยางเข้ามาเก็บในสต๊อก 2 แสนตัน พร้อมเดินทางไปประเทศจีนเพื่อพบกับผู้ประกอบการค้าจีน พร้อมประกาศให้ทราบว่าจะไม่ขายยางสต๊อก เก็บเพื่อไว้ใช้ในประเทศเท่านั้น ไม่ว่าจะทำถนน ลู่วิ่ง หรือลานกีฬา จิปาถะเท่าที่จะทำได้ ล้วนหยิบมาจากงานวิจัยของสถาบันยางของกรมวิชาการเกษตร ประกาศออกไปแล้วหลังจากนั้นกลับประเทศ ยางพาราขึ้น กก.ละ 7 บาท พร้อมอนุมัติงบ 80 ล้านบาท ของกรมวิชาการเกษตร เป็นงบศึกษาวิจัยและพัฒนาในการนำร่องสร้างถนนสายยางพารา ที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ทุกอย่างเตรียมพร้อมการก่อสร้าง แต่มาปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี จึงทำให้ตนไปอยู่ พณ.แทน โครงการเป็นอันพับไป

“ยุทธศาสตร์ยางไม่ผิด แต่ลงมือทำจริงหรือไม่ เรื่องยางพาราเมื่อลงมือใช้ในประเทศจะต้องลงมือทำไปตีปี๊บไป เพราะจิตวิทยาในตลาดมีผลกับราคายางพาราโดยตรง หากผู้มีอำนาจหรือผู้บริหารประกาศประกาศใช้นโยบายที่ขาดความชัดเจน ราคายางจะตกในตลาดทันที หากแนวทางที่ประกาศไปสั่นสะเทือนกับผู้ซื้อ เกิดความไม่มั่นใจว่าจะสามารถเก็บยางไว้ได้ง่ายและไว้ได้สะดวกโดยมีอิทธิพลกำกับเหมือนแต่ก่อนหรือไม่ ราคาก็ขยับตัวสูงขึ้น

Advertisement

การที่ รบ.บอกจะเอายางทำถนนหรืออะไรต่างๆ อีกมากมาย รบ.ต้องลงมือทำเสียที ตนนั่งฟังอยู่ปีกว่า รบ.ยังไม่ขยับ เมื่อทำแล้วต้องให้จีนรู้ ต้องไปชวนมาดูว่าในสต๊อกเรามียางอยู่ 4 แสนตัน ไม่มีออกนอกประเทศแม้แต่กิโลกรัมเดียว ข้างในให้หมด ไม่ต้องรอเราใช้ 4 แสนตันจนหมด แต่เพียงประกาศอย่างหนักแน่น แล้วลงมือเอายางในสต๊อกมาทำ มั่นใจราคากระเถิบตัวขึ้นทันที หากเราคาดหวังว่าราคายางนับต่อนี้ไปจะมีราคาเกิน 100 บาท หรือสูงเกือบถึงระดับ 200 บาท การคาดหวังแบบนี้สูงเกินไป เอาเพียงใกล้ๆ ราคายางให้สูงกว่าต้นทุนที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรประเมิน จากนั้นค่อยไต่บันไดขึ้นไปไม่มีปัญหา” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนอยากสื่อสารไปยัง รบ.ประเด็นหนึ่งว่าอย่าให้ใครพยายามแตะยางพาราในสต๊อกของรัฐบาล อย่าให้ใครพยายามเอาออกขาย เรื่องนี้ รบ.ทำโดยมีเงื่อนงำ มีข้อน่าสงสัยหลายประการ ยางจำนวนนั้นเซ็นสัญญาขายให้ผู้ประกอบการเอกชนของสิงคโปร์ไปแล้ว ภายหลังยกเลิกสัญญา แล้วเซ็นสัญญาขายให้ไห่หนานรับเบอร์ของจีน แล้วก็ยกเลิกสัญญาอีก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ตลาดข้างนอกอ่านเกมส์ออก อย่างไรแล้วประเทศไทยก็จะต้องนำยางในสต๊อกออกขายอย่างแน่นอน ซื้อในตลาดสามารถกดราคาลงต่ำได้

ส่วนเราก็เป็นรอง จึงกลายเป็นว่าประเทศไทยเป็นสต๊อกยางให้กับพ่อค้าต่างชาติ ต้องหยุดอย่าให้ใครพยายามเอายางออกไปขาย แล้วนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐบาลประกาศออกมาให้ชัดว่าใช้หมดในประเทศ แล้วทำจริงจัง เวลาเอายางลงไปเทบนถนน นายกฯต้องลงไปดูเอง เชิญพ่อค้ายางทุกประเทศเข้ามาให้เห็นว่าประเทศไทยทำจริง เหมือนเช่นสมัยที่ตนจะทำถนนสายยางพารานำร่องที่ ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช

Advertisement

“จุดปัญหาที่จะต้องหยุดเดี๋ยวนี้อย่าไปคิดว่ายางพาราที่ รบ.กำลังพยายามว่าจะซื้อมาในราคา กก.ละ 45 บาท จะเอามาแทนสต๊อกเก่าซึ่งขายหมุนเวียนออกไปนั้น ไปคิดไม่ได้ และเมื่อคิดแบบนั้นราคาก็จะต่ำลงมาอีก เหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะตลาดอยู่ในมือผู้ซื้อ ต้องแทงบัญชีศูนย์ ยางในสต๊อกไม่มีขายใช้ในประเทศเพียงอย่างเดียว”

ต่อข้อถามทุกครั้งที่ รบ.ประกาศนำยางในสต๊อกออกขายมีเงื่อนงำหรือสัญญาณที่นายกรัฐมนตรีทราบหรือไม่ว่า ตนไม่แน่ใจว่านายกรัฐมนตรีท่านจะทราบหรือไม่ แต่ตนพอทราบ หากคนอย่างตนทราบ แล้วคนอย่างนายกรัฐมนตรีไม่ทราบก็คงเป็นเรื่องของชะตากรรม วิธีแก้ที่ง่ายที่สุดคือทำอย่างตรงไปตรงมา อย่าเอามือไปซุกไว้ใต้โต๊ะ ปากของบรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลายต้องพูดอย่างจริงใจเพื่อแก้ปัญหา ปากต้องไม่ไปเฉี่ยวกับยางที่อยู่ในโกดัง หากปากเฉี่ยวกับโกดังแล้วจะทำให้ยางพังลงมาหนักบนบ่าของเกษตรกร ทำตามที่แนะอย่างโปร่งใสมั่นใจแก้ปัญหาได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image