เมื่อวันที่ 16 กันยายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หลังจากที่กรมการค้าต่างประเทศออกมาร้องขอให้ สตง. ตรวจสอบข้าวหาย 940,000 ตัน นั้น หลายฝ่ายเชื่อกันไปแล้วว่า สต๊อกข้าวคงเหลือยกมา ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 จำนวน 18,700,000 ตัน และเมื่อหักยอดข้าวที่หายไป 940,000 ตัน ยอดที่กรมการค้าต่างประเทศนำไปประมูลขายจึงมีทั้งสิ้น 17,760,000 ตัน เรื่องนี้พบความผิดปกติ เพราะในรายงาน นบข. ครั้งที่ 2/2557 เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2557 มีการรับทราบปริมาณข้าวคงเหลือในสต็อกรัฐบาลอยู่ที่ 18,862,510 ตัน ข้อความนี้บอกชัดเจนถึง ปริมาณ หาใช่ตัวเลขทางบัญชีแต่อย่างใด
นายเรืองไกรกล่าวว่า ดังนั้น ถ้ารัฐบาล คสช. ระบายข้าวไปทั้งหมด 17,760,000 ตัน ทำให้ต้องตั้งประเด็นว่า สมัยรัฐบาล คสช. บริหาร เกิดข้าวหายไป 18,862,510-17,760,000 = 1,102,510 ตัน ใช่หรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้พบความผิดปกติยิ่งขึ้นไปอีก เพราะในคำเบิกความพยานโจทก์ของนางสาว น. ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2559 ในหน้า 9 กลับระบุว่า “ข้อมูลจากการปิดบัญชีของข้าฯและคณะพบว่า ระดับสต็อกข้าวสาร ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีจำนวน 19.12 ล้านตัน”
จากคำเบิกความจึงแปลความได้ว่า ปริมาณข้าวคงเหลือในสต็อกรัฐบาล ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีจำนวนสูงถึง 19,120,000 ตัน ดังนั้น ถ้ารัฐบาล คสช. ระบายข้าวไปทั้งหมด 17,760,000 ตัน ทำให้ต้องตั้งประเด็นใหม่ว่า เกิดข้าวหายไปสูงถึง 19,120,000-17,760,000 = 1,360,000 ตัน หรือเทียบเท่า ข้าวสารขนาดร้อยกิโล 13,600,000 กระสอบ จำนวนมหาศาลขนาดนี้ หายได้อย่างไร
นายเรืองไกรกล่าวต่อว่า เมื่อเห็นตัวเลขสต็อกข้าวยกมามีถึง 3 ยอด ทำให้นักบัญชีอย่างตน งงมากขึ้นว่า เหตุใดหน่วยงานของรัฐจึงมีตัวเลขแตกต่างกันได้ขนาดนี้ ทำไมไม่มีการสอบยันยอดกันเลยหรือ แล้วตัวเลขใดถูกต้อง หรือหากผิดทั้ง 3 ยอด แล้วยอดที่ถูกต้องจะเป็นเท่าใด หากยอดสต๊อกข้าวยกมา ณ วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มีปัญหาเช่นนี้ ย่อมกระทบไปถึงยอดข้าวที่หายด้วย ซึ่งรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ ต้องรับผิดชอบต่อไปใช่หรือไม่ ให้ข้อสังเกตว่า ตัวเลขโครงการรับจำนำข้าว มีปัญหาแทบทุกขั้นตอน ทั้งในเรื่องการไม่ได้ทำบัญชี ไม่ได้ปิดบัญชีอย่างถูกต้อง ไม่มีการตรวจสอบรับรองจาก สตง. แต่กลับมีการนำไปกล่าวอ้างเพื่อป้ายสีทางการเมืองมาโดยตลอดเวลา รวมถึงมีการนำไปกล่าวอ้างใช้ในการถอดถอนและอ้างเป็นหลักฐานทางคดีด้วย ซึ่งตนเห็นเรื่องนี้มานานแล้ว และต้องรอให้ความจริงปรากฏ และเมื่อรายงานการเงินแผ่นดิน 2557 ออกมา จึงทำให้เห็นว่าผลขาดทุนของโครงการรับจำนำข้าวไม่มีแสดงไว้ อันเป็นหลักฐานหนึ่งที่นำไปย้อนตรวจสอบบัญชี เช่น สต๊อกข้าวยกมา และข้าวที่ขายดังกล่าว
“แค่ตัวเลขสต๊อกข้าวยกมา กับตัวเลขข้าวหาย ยังมีหลายยอด สร้างความสับสน และยังไม่รู้ว่ายอดไหนถูก ยอดไหนผิด และยอดที่ถูกต้องเป็นเท่าใด เรื่องอย่างนี้ สตง.คงต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกนาน ภายในสิ้นเดือนนี้คงตรวจไม่เสร็จ ตนจึงจะนำข้อมูลที่พบนี้ไปแจ้งให้ สตง.นำไปตรวจสอบสต๊อกข้าวยกมาและข้าวที่หาย ในวันที่ 17 กันยายนนี้ เวลา 10.00 น. ที่สนง.” นายเรืองไกรกล่าว
