| ผู้เขียน | เอ็มซี |
|---|
น้ำเสียงของนายพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ผ่านวอยซ์ทีวีได้ทิ้งปมให้คิด
นายพิชัยบอกว่า ในพรรคประชาธิปัตย์มีกลุ่มเลือดเนื้อประชาธิปัตย์อยู่หลายคน
ในจำนวนนี้มีอยู่ 3-4 คนที่เป็นนายกรัฐมนตรีได้
และนายพิชัยก็บอกว่า “เวลานี้คนคนนั้นกำลังหาเสียงอยู่ รวบรวมคนอยู่ ผมไม่อยากเอ่ยชื่อคนึคนนั้น ผมมองว่าคนคนนั้นไม่ใช่เลือดเนื้อประชาธิปัตย์ที่แท้จริง”
แล้วใครคือเลือดเนื้อที่แท้จริง แล้วใครคือคนที่ไม่ใช่เลือดเนื้อพรรคประชาธิปัตย์
พลิกกลับไปอ่านอีกที พบว่ารายชื่อที่นายพิชัยเอื้อนเอ่ยว่า “เลือดแท้” ประกอบด้วย ชวน หลีกภัย บัญญัติ บรรทัดฐาน อภิสิทธิ เวชชาชีวะ สุรินทร์ พิศสุวรรณ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎฺ์ ฯลฯ
ในจำนวนรายชื่อที่นายพิชัยพูดถึง มีบุคคลที่อยู่ในความเคลื่อนไหวของข่าวสารอยู่ไม่กี่คน
หนึ่ง คือ ชวน หลีกภัย ส.ส.ครั้งแรก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2512 หนึ่งคือ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ส.ส.ครั้งแรก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2535 หนึ่งคือ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ส.ส.ครั้งแรก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2529
และในจำนวนนี้ ชวน หลีกภัย ปฏิเสธตำแหน่งหัวหน้าพรรคไปแล้ว แถมยังยืนยันเชียร์ อภิสิทธิ์ ว่าเหมาะสม
จึงเหลือเพียง อภิสิทธิ์ กับ จุรินทร์ ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงข่าวคราวของ อภิสิทธิ์ เท่านั้น
ผิดกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.ครั้งแรก สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ปี 2548 ที่ยอมรับว่าสนใจขอชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคกับ “หนุ่มมาร์ค”
ขณะเดียวกัน ถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปปส. ได้ออกมาสนับสนุนอย่างแข็งขัน โดยล่าสุด ถาวรและหมอวรงค์ได้เข้าพบอภิสิทธิ์เพื่อสอบถามถึงกฎกติกาในการแข่งขัน
ช่วงชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่
แลดูจากประวัติการเป็น ส.ส.ครั้งแรกก็ดูเหมือนทุกคนจะเป็น “เลือดแท้”
แต่เมื่อพลิกย้อนหาประวัติบุคคลกลับไปสู่อดีตก็พบว่า นพ.วรงค์ นั้นเคยสังกัดพรรคไทยรักไทยมาก่อน
ตามประวัติที่ปรากฎ บันทึกว่า น.พ.วรงค์ เริ่มต้นงานการเมืองภายหลังลาออกจากราชการ
แรกเริ่มอยู่ในสังกัดพรรคไทยรักไทย แต่ทว่าได้ลาออกจากพรรคไทยรักไทย เมื่อพรรคเปลี่ยนตัวชิง ส.ส.พิษณุโลก เมื่่อปี พ.ศ. 2547
พอ นพ.วรงค์ ย้ายไปอยู่พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้เป็น ส.ส.พิษณุโลกในปี พ.ศ. 2548
และอยู่ประชาธิปัตย์มาจนถึงบัดนี้
