วันนี้ (24 ก.ย.) นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและเลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและเสรีภาพ โพสต์ข้อความทางเฟสบุ๊ก Winyat Chatmontree ระบุว่า การสมรู้ร่วมคิดมีจริงหรือไม่? มีรายละเอียดดังนี้
4 ปีแล้วนับแต่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจในองค์กรต่างๆมีข้าราชการในกระบวนการยุติธรรมเข้ามารับหน้าที่ แต่มีองค์กรหนึ่งที่ยังมีพฤติการณ์กระทำละเลยต่อหน้าที่ของตนอย่างที่ไม่ควรจะเป็น! หรือจะมีการสมรู้ร่วมคิดกันจริงๆ
ผมและคณะทำงาน ในฐานะประชาชนที่ติดตามคดีกลุ่มผู้ต้องหาที่เรียกกันในนาม กปปส. มาตลอด แม้จะมีช่วงเวลายืดเยื้อยาวนาน ทั้งๆที่อัยการคณะทำงานชุดแรกมีมติสั่งฟ้องตั้งแต่ ปี 2558 แล้วจนกระทั่งอัยการชุดต่อมายืนยันมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 58 คน แบ่งตามกลุ่ม 4 กลุ่ม
โดยกลุ่มแกนนำหลัก อัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 39 คน ในข้อหาร่วมกันเป็นกบฏ,อั้งยี่,ซ่องโจร,มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป,บุกรุกสถานที่ราชการ,ขัดขวางการเลือกตั้ง โดยที่มีการนำตัวมาฟ้องต่อศาลอาญาได้เพียง 27 คนเท่านั้น
อีก 12 คนในคดีกลุ่มหลัก หายตัวไปหรือมีความสุขสบายอยู่หรือไม่? เหตุใดจึงไม่ออกหมายจับหรือหาทางเอาตัวมาฟ้องต่อศาลอาญาให้เร็วดังที่ได้ฟ้องคนอื่นๆไปก่อนหน้านี้
ในข้อหาทั้งหลายนั้น มีข้อหาบุกรุก ตาม ป.อ.มาตรา 362 ที่มีอายุความ 5 ปีเท่านั้น ซึ่งจะหมดอายุความฟ้องคดีลงในวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 นี้ (ระวัง!ขาดอายุความ)
ดังนั้น ในวันพุธที่ 26 กันยายน ศกนี้ เราจะไปยื่นทวงถามอัยการสูงสุดว่า ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน คือ อัยการสำนักงานคดีพิเศษ ลืมหน้าที่ของตนแล้วหรืออย่างไร?
กำหนดการยื่นหนังสือทวงถามและเร่งรัดให้นำตัวมาฟ้องต่ออัยการสูงสุด(นายเข็มชัย ชุติวงศ์)
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ชั้น 2 อาคารศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคาร เอ ในวันพุธที่ 26 กันยายน 2561
เวลา 10:00 น.
แล้วเราจะได้รู้กันว่าทั้ง 12 คน คือใคร?
