“มาร์ค”แจงกกต. ปชป.เดินสายหยั่งเสียงเลือกหน.พรรค ไม่ใช่หาเสียงเลือกตั้งใหญ่

“มาร์ค” แจงกกต. ปชป.เดินสายหยั่งเสียงเลือกหน.พรรค ไม่ใช่หาเสียงเลือกตั้งใหญ่ ชี้แข่งขันชิงเก้าอี้ควรสร้างสรรค์มากกว่าทะเลาะกัน หลังถูกโจมตี “เลือกอภิสิทธิ์ ได้ศิริโชค เทพไท” จับตาส.ส.ลาออกเพื่ออุดมการณ์หรือเพื่อผลประโยชน์

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 28 กันยายน ที่ห้องประชุมวายุภักดิ์ โรงแรมเซ็นทรา ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้คงเป็นการชี้แจงและมีรายละเอียดเยอะในการปฏิบัติทางกฎหมาย นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ก็สรุปประเด็นหลักๆได้ดี ซึ่งได้ความชัดเจนมากขึ้นหลายเรื่อง เช่น การใช้รูปแบบการสมัครสมาชิกโดยใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ก็จะเห็นว่าทำได้ ซึ่งตนก็สบายใจเพราะจะทำให้เกิดความสะดวกมากขึ้น เรายืนยันว่าการทำสมาชิกใหม่จะต้องรัดกุมเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายจริงๆ ส่วนประเด็นการตีความหาเสียงทางสังคมออนไลน์ทั้งหลายขณะนี้ยังไม่ กกต.ท่านใดที่ให้คำตอบได้ชัดเจน แต่ตนก็ได้เรียนผู้ที่เกี่ยวข้องไปว่าต้องแยกกันระหว่างผู้ที่หาเสียงของพรรคการเมือง ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายพรรคการเมืองและคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กับการที่มีกระบวนการภายในพรรคขณะนี้ซึ่งเป็นเรื่องการหยั่งเสียงการเลือกหัวหน้าพรรคน่าจะเป็นคนละกระบวนการกัน ตรงนี้ตนแจ้งเจตนาให้ทราบแล้ว

เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีข้อกังวลอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่ค่อยมีข้อกังวล เพราะในการทำงานที่ผ่านมาการทำงานของพรรค ทั้งกรรมการบริหารพรรค และสำนักงานบริการ เราเน้นเรื่องความถูกต้องตามกฎหมายและมาตรการที่มีการรัดกุม เราต้องการที่จะเป็นแบบอย่างในการทำงานของพรรคการเมือง ซึ่งการที่มาฟังกกต.วันนี้ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี อยากให้มองพรรคการเมืองกับกกต.จะต้องทำงานด้วยกัน ต่างฝ่ายต้องทำหน้าที่ และควรยึดเป้าหมายเดียวกัน คือการเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรม หรือเสรีเป็นธรรม เพราะถ้าไม่เริ่มต้นจากตรงนี้ ประเทศจะเดินหน้ายาก ถ้าการเลือกตั้งมีปัญหาหรือไม่เป็นที่ยอมรับก็ไม่สามารถเดินหน้าประเทศได้

นายอภิสิทธิ์กล่าวถึงการที่ส.ส.ส่วนหนึ่งได้ลาออกจากพรรคปชป.ด้วยว่า มองว่าเป็นเรื่องปกติของการเลือกตั้งทุกครั้งที่จะต้องมีนักการเมืองตัดสินใจเปลี่ยนแปลงย้ายพรรค แต่ละคนมีเหตุผลไม่เหมือนกัน เราถือว่าเป็นสิทธิ์ แต่อยากให้ประชาชนได้เฝ้าดูว่าใครที่ย้ายพรรคเพราะเป็นเรื่องความคิดหรืออุดมการณ์ก็ดี แต่เราต้องช่วยกันไม่ให้มีการย้ายพรรคที่เกิดจากผลประโยชน์ต่างๆ เพราะว่าถ้าเกิดการย้ายพรรคที่นำไปสู่ผลประโยชน์ให้เชื่อได้เลยว่าจะไม่นำไปสู่การเมืองที่สุจริต ตนให้เกียรติส.ส.ทุกคนในการตัดสินใจ แต่ก็ไม่หวั่นไหว เพราะถือแนวความคิดอุดมการณ์พรรคเป็นตัวนำ สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีบุคคลที่ใหญ่กว่าพรรค ดังนั้นเราต้องมีการเตรียมการถ้ามีใครลาออกไปก็พร้อมที่จะมีคนมาสืบทอดสืบสานอุดมการณ์ในพื้นที่นั้นๆมาทำงานแทน

Advertisement

นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่หาเสียงของนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก ผู้ท้าชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคปชป. เกรงว่าจะมีการเบี่ยงประเด็นว่าพรรคปชป.เริ่มหาเสียงหรือไม่ ว่า กระบวนการทั้งหลายที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการหยั่งเสียงเพื่อเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ไม่มีกรณีของการไปหาเสียงในนามพรรคการเมืองในการเลือกตั้งใหญ่ ตนเข้าใจว่ากฎหมายพรรคการเมืองคำสั่งคสช.ดูในมุมนั้น ซึ่งการหยั่งเสียงเป็นกระบวนการภายในพรรคของเรา เราทำเรื่องนี้เพื่อประโยชน์ของการมีพรรคการเมือง ตามเจตนารมณ์ของพรรคการเมือง

“ผมได้แจ้งไปแล้วว่าจะทำหน้าที่หัวหน้าพรรคเนื่องจากมีภารกิจที่จะต้องปฏิบัติที่แอฟริกาใต้ในสัปดาห์หน้า เมื่อกลับมาแล้วก็คงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะยังไม่ทราบว่ากรรมการบริหารพรรคที่ดูแลเรื่องการหยั่งเสียง ซึ่งผมจะไม่ยุ่ง จะเป็นผู้กำหนดว่าจะให้มีการเสนอชื่อและสมัครกันเมื่อไหร่ เมื่อตรงนั้นชัดเจน ผมก็จะมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคให้กับนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคฯ ทั้งนี้ที่ผมไม่ลาออก เพียงแต่มอบหมายหน้าที่ทำงานเพราะไม่ต้องการให้มีปัญหาทางข้อกฎหมาย แต่ทุกคนสบายใจได้ว่า เมื่อผมสถานะในการเป็นผู้สมัครแข่งขันเมื่อไหร่ก็จะไม่มีกรณีมาใช้อำนาจหัวหน้าพรรค เพราะต้องการให้เห็นว่านี่คือแบบอย่างของการแข่งขันที่จะต้องเป็นธรรม” หัวหน้าพรรคปชป. กล่าว

เมื่อถามว่า มีการทำโปรว่า ถ้าเลือก “อภิสิทธิ์ ได้ ศิริโชค เทพไท” จะชี้แจงกับสมาชิกอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ไม่มี วันนี้สมาชิกคุยกันในกลุ่มไลน์ เขาบอกว่า ไม่มีใครเห็นด้วยกับการทำอย่างนี้ และทุกคนมองตรงกันว่า ควรแข่งขันกันอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องมาทะเลาะเบาะแว้งทำลายกันเอง เรากำลังสร้างกระบวนการประชาธิปไตยให้พรรคของเราเป็นที่พึ่งที่หวัง ฉะนั้นตนไม่ทราบว่าใครทำอะไร อย่างไรบ้าง แต่สมาชิกทุกคนเราระมัดระวังกัน อย่างไรก็ดี ตนไม่มีเรื่องการตอบโต้ใคร ทรัพยากรบุคคลของพรรคทุกคนมีค่า ตนยึดหลักนี้มาตลอด และให้เกียรติกันทั้งที่เห็นเหมือนและต่างกัน นี่คือแนวทางที่ตนทำงานมา ตนให้มีการแข่งขันเลือกหัวหน้าพรรคก็ประสงค์ที่จะเห็นการแข่งขันที่สร้างสรรค์ ดังนั้นจึงไม่มีประเด็นที่ไปตอบโต้ เพราะข้อเท็จจริงต่างๆจะปรากฏขึ้นมาเอง ซึ่งตนไม่มีความกังวลเรื่องอะไรเลย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image