‘วิรัตน์’ชี้ กม.ประชามติมีผล ทำให้ชัดเจนขึ้น พูดอะไรได้บ้าง
เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง พ.ร.บ.ประชามติที่มีผลบังคับใช้แล้วว่า ทำให้มีความชัดเจนขึ้น เพราะที่ผ่านมา คสช.บอกว่าการณรงค์รับก็ผิด ไม่รับก็ผิดทั้งหมด ซึ่งจริงๆ แล้วต้องดูที่เจตนาของผู้พูด จะผิดต่อเมื่อมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง หรือจงใจพูดให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญ แต่ถ้าเขาพูดเรื่องจริง ไม่ได้ต้องการให้เข้าใจผิด ก็สามารถพูดได้ เพราะเวลาพูดดูกันออกว่าเป็นการพูดโดยสุจริตหรือพูดเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดในตัวร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้นจึงต้องดูเจตนาเพราะถ้าบิดเบือนเจตนาใส่ร้ายหรือรับคำสั่งใครมา ก็โทษรุนแรง เมื่อ พ.ร.บ.นี้ออกมาก็คงเครียด แต่ถ้ามีความสุจริตพูดในเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล
เมื่อถามว่า ในฐานะนักการเมืองเมื่อ พ.ร.บ.ประชามติมีผลบังคับใช้ต้องระวังมากขึ้นหรือไม่ นายวิรัตน์กล่าวว่า ไม่ต้องระวัง ที่ผ่านมาตนแสดงความคิดเห็นตลอดว่าควรปรับปรุงอะไรในร่างรัฐธรรมนูญบ้าง แต่วันนี้พูดไม่ได้แล้วเพราะผ่านจุดนั้นมาแล้ว แต่สิ่งที่ไม่ขัดกับข้อจำกัดก็สามารถพูดได้ ดังนั้นอยากให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญชี้แจงถึงเจตนาว่าเหตุใดจึงออกข้อกำหนดหรือข้อจำกัดมา ดังนั้นเวลานี้สามารถพูดได้ในเชิงวิชาการ ก็คงพูดได้เฉพาะข้อดีของร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีอยู่มากทีเดียว
นายวิรัตน์ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีระบุว่าหากมีความวุ่นวายมากอาจไม่มีการทำประชามติว่า นายกฯคงพูดไปตามความรู้สึก คงไม่สามารถยกเลิกการทำประชามติได้ เพราะในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 57 แก้ไขเพิ่มเติมให้ทำประชามติแล้ว และ ครม.ก็อนุมัติงบประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนดวันออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคมแล้ว ก็คงต้องเดินหน้าไปตามรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว 57 ไม่น่าจะมีอะไรผิดไปจากนี้