‘ธนาธร’ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ท้า’บิ๊กตู่’ประกาศจุดยืนให้ชัด ปชช.จะได้ตัดสินใจ ‘ปิยบุตร’ชี้คสช.คือคู่ขัดแย้ง ไม่ใช่คนกลาง

“ธนาธร” ลั่นพร้อมเป็นนายกฯ ท้า “บิ๊กตู่” ประกาศจุดยืนให้ชัด ปชช.จะได้ตัดสินใจ ด้าน “ปิยบุตร” ชี้ คสช.คือคู่ขัดแย้ง ไม่ใช่คนกลาง เหน็บควรอยู่แค่ 3 เดือน แล้วประกาศตั้งพรรค

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่อาคารไทยซัมมิท ชั้น 8 พรรคอนาคตใหม่(อนค.) จัดกิจกรรม “ได้เวลาอนาคตใหม่” แถลงข่าวเปิดตัววิสัยทัศน์ประเทศไทย “อนาคตใหม่ ไทย 2 เท่า” นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค นายไกลก้อง ไวทยากร นายทะเบียนสมาชิกพรรค น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ผู้อำนวยการพรรคฝ่ายนโยบาย และสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งรวมกว่า 100 คน

โดยเวลา 11.00 น. แกนนำพรรคอนาคตใหม่ได้เปิดให้ซักถาม เริ่มจากประเด็น งบประมาณการตั้งพรรคจนถึงวันเลือกตั้งและแนวทางการเปิดเผย นายธนาธรกล่าวว่า สิ่งที่เราพูดว่าเราจะเปิดให้สังคมได้เห็นเรื่องบัญชีรายรับรายจ่ายเป็นความตั้งใจของกรรมการบริหารพรรคที่จะเปิด โดยไตรมาสแรกคือ ในช่วงครึ่งหลังของเดือนมกราคม 2562 ขอให้รอดู ส่วนงบประมาณในการเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้งนั้นได้จัดทำแล้ว แต่ยังไม่ได้ทำงบของทั้งปี 2562 ทั้งนี้คาดหวังว่าจะระดมทุนสาธารณะให้ได้ 300 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กฎกติกาการระดมทุนสาธารณะมีความยุ่งยาก การขายของออนไลน์ของพรรคไม่สามารถทำได้ แม้จะมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) เปิดตัว 4 รัฐมนตรี มองว่า จะเกิดความเหลื่อมล้ำได้เปรียบเสียเปรียบอย่างไร นายปิยบุตรกล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งที่จะมาถึง ไม่อยู่ในสภาพปกติ เพราะอยู่ภายใต้อำนาจของ คสช. หัวหน้า คสช.ยังมีอำนาจมาตรา 44 ไปจนกว่าจะมีรัฐบาลชุดใหม่เข้าดำรงตำแหน่ง ดังนั้นทุกคนที่ตัดสินใจเข้ามาทางการเมืองแห่งนี้ยังมีความไม่แน่นอน ยังอยู่กับอำนาจเผด็จการ ส่วนพรรค พปชร.นั้น ตนสนับสนุนทุกพรรค สนับสนุนให้คนมาจัดตั้งพรรค แต่การปฏิบัติต่อพรรคการเมืองต่างๆ จะต้องอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน ทั้งพรรคที่ไม่ได้สนับสนุน คสช.ก็ต้องได้รับการปฏิบัติเช่นเดียวกับพรรคที่สนับสนุน คสช. ทั้งนี้ทุกคนของพรรคไม่ได้มีใครเข้าไปถือครองอำนาจรัฐเพื่อพรรคอนาคตใหม่ แต่พรรคอื่นๆ จะมีรัฐมนตรีและผู้ดำรงตำแหน่งอื่นๆ แล้วมาบอกว่าเขาสามารถแยกแยะได้นั้น เป็นเรื่องที่สังคมและสื่อมวลชนเป็นคนตัดสินใจว่าความสุจริตนั้น เกิดจากที่คนคนหนึ่งบอกว่า เขาบอกว่าสุจริต หรือสังคมเป็นคนบอกสุจริต อย่างไรก็ตาม ขอพูดในนามของทุกพรรค ถึงการประกาศรับรองของ กกต.นั้นกระชั้นชิดมาก ในส่วนของ อนค.ต้องรอถึง 97 วัน นับตั้งแต่ยื่นเอกสารการประชุมครั้งแรก แต่ในส่วนของ พปชร.มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 กันยายน จะต้องจับตาดูว่าจะใช้เวลากี่วันที่ กกต.จะรับรองการจดจัดตั้งพรรค ถ้าอนุมัติได้เร็วยินดีด้วย แต่ก็จะแสดงถึงมาตรฐานที่ไม่เท่ากันหรือไม่

Advertisement

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯประกาศสนใจการเมือง และมีการตั้งพรรค พปชร.นั้น นายปิยบุตรกล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ตัดสินใจที่จะมาลงเล่น แต่ก็ไม่สามารถยินดีได้อย่างเต็มปากเต็มคำ ถ้าหาก พล.อ.ประยุทธ์จะตัดสินใจลาออกจากราชการ แล้วไม่มายึดอำนาจเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้วลงแข่งขันทางการเมือง ไม่มีเหตุผลใดที่จะยอมรับการสืบทอดอำนาจ ถ้าคุณยึดอำนาจแล้ว อยากจะลงเล่นการเมือง ทำไมไม่ยึดอำนาจเพียงแค่ 3 เดือน หรือ 6 เดือน ทำไมต้องยึดอำนาจมาถึงตอนนี้ 4 ปี 4 เดือนแล้ว และตอนนี้คาดว่าจะอยู่ไปเรื่อย และจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีพรรคการเมืองสนับสนุนไปเรื่อยๆ อีก จึงอยากบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มีนายกฯคนใน ไม่มีนายกฯคนนอก มีแต่นายกฯที่มาจากการสืบทอดอำนาจของ คสช. กับนายกฯที่มาจากประชาชน

ด้านนายธนาธรกล่าวเสริมว่า การเลือกตั้งที่จะมาถึงในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ คนไทยจะเลือกอยู่กับเผด็จการหรือเสรีภาพ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ประกาศให้ชัดจะถือเป็นเรื่องที่ดี ประชาชนจะได้ตัดสินให้ชัดว่า จะอยู่กับการสืบทอดของ คสช. อยู่กับการกดขี่ต่อไป หรือจะเลือกลุกขึ้นยืน เมื่อบอกว่าอำนาจเป็นของประชาชน เพื่อทวงสิทธิเสรีภาพของเราคืนมา

Advertisement

เมื่อถามว่า ไพรมารีโหวตเรื่องใหม่ของคนไทยจะยุ่งยากหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ครั้งแรกคงไม่สมบูรณ์ ทำเพื่อเรียนรู้ บางเขตอาจมีสมาชิกแค่ร้อยคน แต่ต้องเริ่มทำ ต้องเรียนรู้ ต้องการให้สมาชิกพรรคมีอำนาจอย่างแท้จริง

นายรณวิตกล่าวว่า ระบบถูกออกแบบมาให้ใช้ง่ายที่สุดไม่กี่ขั้นตอน ต้องการให้ทุกคนมีส่วนร่วมต่อการใช้งานจริงๆ ถือว่าใช้งบประมาณน้อยที่สุดในระยะยาวที่จะเข้ามามีส่วนร่วมต่อการเป็นสมาชิกพรรค

นายปิยบุตรกล่าวว่า ไม่มีประเทศไหนเขียนล็อกให้พรรคการเมืองทำไพรมารีโหวต ให้แต่ละพรรคคิดเอง ให้ทำเป็นวัฒนธรรม คำถามคือ คนเขียนกฎหมายอยากให้มีไพรมารีโหวตจริงหรือไม่ หรืออยากให้ยุ่งยากต่อการปฏิบัติ สุดท้ายแล้วพรรคจำนวนมาก รวมถึงพรรคที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจก็ทำไม่ได้ ต้องมีคำสั่งคลายล็อกออกมา ในส่วนอนาคตใหม่ยืนยันมาตลอดว่าจะไพรมารีโหวตตามกติกาสากล ให้มีส่วนร่วมมากที่สุด อีก 3 เดือนจนถึงสิ้นปี สมาชิกพรรคต้องหาสมาชิก 1 หมื่นคน อาจจะไม่ยาก แต่มีเงื่อนไขต้องแจ้ง กกต.ก่อน 5 วัน แถมมีเส้นแบ่งระหว่างหาสมาชิกกับหาเสียง ถามว่าทุกพรรคทำได้หรือไม่ ถ้าทำไม่ได้ ก็การเมืองแบบเดิม หาเสียงไม่ได้ หาสมาชิกก็จำกัด แบบนี้ก็หันหานายทุน เครือข่ายอุปถัมภ์เหมือนเดิม ประเทศนี้ต้องการพรรคที่ไม่มีนายทุนจริงหรือไม่

เมื่อถามว่า เชื่อมั่นว่าจะมีการเลือกตั้งปี 2562 หรือไม่ แล้วหลังการเลือกตั้ง ถ้าเสียงไม่พอชูนายธนาธร จะหนุนพรรคเพื่อไทยหรือพรรคใด นายธนาธรกล่าวว่า บรรยากาศการเมืองไทยรอบ 2 เดือนที่ผ่านมาขมุกขมัว แต่กระแสการเลือกตั้งเดินทางมาไกล ถ้าไม่มี จะตอบประชาชนยาก ส่วนตัวเชื่อว่า การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นต้นปี 62 ยืนยันว่า อนาคตใหม่พร้อมร่วมทำงานกับทุกพรรค ที่ยืนหยัดในอุดมการณ์เดียวกัน เส้นนี้จะกำหนดว่า เราจะร่วมกับพรรคไหน 1.ไม่เอาการสืบทอดอำนาจของ คสช.ทุกรูปแบบ รอบ 1-2 คนใน คนนอก ไม่เอา 2.แก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ และ 3.ล้มล้างผลพวงคณะรัฐประหาร นี่คือทางพาสังคมไทยกลับคืนสู่ความปกติ ต้องการอำนาจไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ ต้องการอำนาจเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ อำนาจที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงประเทศ ไม่รู้จะมีทำไม พรรคใดมีอุดมการณ์ร่วมกับเรา ก็พร้อมจะทำงาน อย่างไรก็ตามพรรคไม่เคยเข้าสู่การเลือกตั้งมาก่อน เราไม่มีคะแนนเสียง ทุกจังหวัดที่ไปคือคะแนนใหม่ กลุ่มเยาวชน วัยกลางคน เป็นกลุ่มใหม่ เราพยายามอย่างยิ่งที่จะเอาชนะด้วยการแข่งขันด้านอุดมการณ์และนโยบาย อย่างไทย 2 เท่า คือการตกตะกอนจากการรับฟังในพื้นที่ และเสียงทุกเสียงเป็นเสียงที่เราจะไขว่คว้า

นายปิยบุตรกล่าวด้วยว่า สัญญาณหนึ่งชัดเจนว่าจะมีการเลือกตั้ง คือ การประชุมของ พปชร. ถ้าได้รับจดทะเบียนเมื่อไร ก็เริ่มใกล้เข้ามาแล้ว โอกาสเลือกตั้งเป็นไปได้สูง

เมื่อถามถึงข้อเสนอรัฐบาลเฉพาะกาลของ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ นายปิยบุตรกล่าวว่า อนาคตใหม่ขอทำงานการเมือง บนพื้นฐานกับระบอบประชาธิปไตย

เมื่อถามว่า ในช่วงเลือกตั้ง พร้อมดีเบต พล.อ.ประยุทธ์หรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า “ลำบากใจ เพราะ พล.อ.ประยุทธ์มีหลายหมวก ถ้าเป็นแคนดิเดตในฐานะนายกฯก็พร้อม แต่ถ้าแลกเปลี่ยนในฐานะหัวหน้า คสช. ไม่คุย”

เมื่อถามว่า ผลโพลปรากฏชื่อนายธนาธร ติด 1 ใน 3 เป็นนายกฯ นายธนาธรกล่าวว่า รู้สึกดีใจมาก การที่ประชาชนให้ความสนับสนุนตนและอนาคตใหม่ ก็เพราะมีคนอีกจำนวนมากที่ลงแรงกายแรงใจผลักดันให้มาถึงตรงนี้ มีคนเยอะแยะไปหมดที่ผลักอนาคตใหม่ คร่าวๆ ก็มากกว่า 10,000 คนที่หนุนเรา ทั้งทางตรงทางอ้อม นี่คือความสำเร็จของการบริหารองค์กรที่ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วม

เมื่อถามถึงเป้าหมาย ส.ส.หลังการเลือกตั้ง นายธนาธรกล่าวว่า จุดยืน สิ่งสำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้ คือการปักธงทางความคิด ทุกครั้งที่จะมีการรัฐประหาร เข่นฆ่าประชาชน ต้องทำให้ประชาชนเห็นต่างกันเอง นี่คือเงื่อนไขเบื้องต้นเป็นข้ออ้างรัฐประหาร ถ้าทำให้ทุกคนกลับมาเชื่อในระบอบรัฐสภาได้ การรัฐประหารจะเกิดไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเพียงสมรภูมิเดียวในสงครามทั้งหมด เป้าหมายตัวเลขอยู่ในกระบวนการที่ยังจัดทำอยู่ ไม่มีหัวคะแนน ยากมากที่จะบอกได้ว่า ได้กี่คะแนนน ต้องใช้เวลาประเมินในระดับจังหวัด ขอยืนยันว่า อนาคตใหม่พร้อมพาประเทศไปสู่การเปลี่ยนแปลง และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมเป็นนายกฯ

เมื่อถามว่า กังวลต่อการถูกฟ้องร้องคุกคามหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ไม่น่ากังวล ก่อนเลือกตั้ง แต่การคุกคามไม่ได้เกิดกับแกนนำพรรคที่มีสถานะปกป้องอยู่ สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนที่ส่งเสริมพรรคซึ่งไม่ได้รับการปกป้องเหมือนแกนนำพรรค

ผู้สื่อข่าวถามว่า วิธีการลบล้างผลพวงรัฐประหาร จัดการมรดก คสช. โครงการอย่างอีอีซีที่ผูกติดกับการต่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร นายปิยบุตรกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญไทยและกฎหมายการเลือกตั้งที่ผ่านมาระบุว่า ช่วงเวลาสุดท้ายของรัฐบาลไม่ควรก่อตั้งโครงการต่างๆ ที่ใช้งบประมาณผูกพันรัฐบาลถัดไป และจะต้องให้ กกต.เข้ามาตรวจสอบดูแล แต่ไม่ทราบว่ามาตรฐานแบบนี้จะใช้กับรัฐบาล คสช.ได้หรือไม่ เพราะรัฐบาล คสช.ไม่ใช่รัฐบาลคนกลาง รัฐบาล คสช.คือรัฐบาลที่อยู่ในสนามการเมือง และอยู่ในความขัดแย้งของการเมืองไทย ซึ่งเมื่อลงมาแข่งขันด้วยกันก็ต้องใช้มาตรฐานเดียวกัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image