เส้นทางการเติบโตของ ‘กลุ่มวังน้ำยม’ กระทั่งไปเป็น ‘กลุ่มมัชฌิมา’ และล่าสุดคือ ‘กลุ่มสามมิตร’ ล้วนอยู่ภายใต้ปีกของ ‘สมศักดิ์ เทพสุทิน’ และ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองตกิจ’
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตั้งแต่มีการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ‘สุริยะ’ เก็บตัวเงียบ ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ประจวบกับการต่อสู้คดีซีทีเอ็กซ์ กระทั่งคณะกรรมการป้องกันและปราบกรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลว่าไม่มีความผิดในปี 2555 แต่ ‘สุริยะ’ ยังคงเก็บตัวเงียบ
ต่างจาก ‘สมศักดิ์’ ที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง หลังจากรัฐประหาร 2549 ได้มีการแยกตัวจากพรรคไทยรักไทย หลังจากโดนยุบพรรค ก่อตั้งพรรคมัชฌิมาธิปไตย โดยมี ‘อนงค์วรรณ เทพสุทิน’ ภรรยาสุดที่รัก เป็นหัวหน้าพรรค ร่วมรัฐบาลกับ รัฐบาลพลังประชาชน ที่นำโดย ‘สมัคร สุทรเวช’ นายกรัฐมนตรี
แต่ต่อมาพรรคพลังประชาชน ถูกยุบ พร้อมกับพรรคมัชฌิมาฯ และพรรคชาติไทย ทำให้ ‘องค์วรรณ’ ถูกตัดสิทธิ์ ทางการเมือง เช่นเดียวกับผู้เป็นสามี สุดท้าย ‘สมศักดิ์’ หอบสมาชิกที่หลังเหลืออยู่ ไปร่วมกัยกลุ่มเพื่อนเนวิน ที่หนีแพแตก มาร่วมชะตากรรมในค่ายภูมิใจไทย เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ โดยมี ‘อภิสิทธิ์ เวชาชีวะ’ เป็นายกรัฐมนตรี
เมื่อเกิดความวุ่นว่าขึ้นในบ้านเมืองในช่วงนั้น ‘อภิสิทธิ์’ ตัดสินใจยุบสภา และให้มีการเลือกตั้งในเดือนวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 และ ‘ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร’ พาพรรคเพื่อไทย ชนะการเลือกตั้งและจัดตั้งรัฐบาล ทำให้ ‘สมศักดิ์’ ตัดสินใจ ทิ้งพรรคภูมิใจไทย กลับเข้าไปสั่งกัดพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง
กระทั่งต่อมา เกิดการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 พรรคการเมืองทุกพรรค เคลื่อนไหวอย่างสงบ บางพรรคถูกจับตาจากทหารเป็นพิเศษ แต่กลุ่มของ ‘สมศักดิ์’ เริ่มมีความเคลื่อนไหวอีกครั้งในช่วงปลายปี 2560 และมีความชัดเจนขึ้นในช่วงต้น 2561 จนมีการประกาศตัวชัดเจนอีกครั้งว่ามีการเคลื่อนไหวในนาม ‘กลุ่มสามมิตร’ และเดินสายรวบรวมสมาชิกในจังหวัดต่างๆ และ มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ว่า’กลุ่มสามมิตร’ จะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ ที่เพิ่งมีการเปิดตัว 4 รัฐมนตรี ในรัฐบาลปัจจุบัน เป็นหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค
อีกทั้ง กลุ่มสามมิตร และ พรรคพลังประชารัฐ ต่างให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง แต่ผลจะเป็นอย่างไรนั้นประชาชนผู็มีสิทธิ์เลือกตั้งจะเป็นผู้ชี้ชะตา
#ทีมงานการเมือง
