“ปานปรีย์” แจงข่าวนั่ง หน.เพื่อไทย เปิดไอเดียแก้ศก.ชี้ 2 อุปสรรค

หมายเหตุ – ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร อดีตผู้แทนการค้าไทยและอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ “มติชน” ถึงกระแสข่าวที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค พท. รวมถึงทิศทางและยุทธศาสตร์ของพรรค พท.ในการเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งห้วงต้นปี 2562

⦁วันนี้ฝ่ายที่สนับสนุนพรรค พท.หวังว่า พท.จะเข้ามาแก้ปัญหาเศรษฐกิจในฐานะที่อาจารย์ดูด้านเศรษฐกิจอยู่ จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไร

เวลาผ่านมา 4 ปีแล้ว พรรคการเมืองคงได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง ทำให้รู้ว่าเวลาทำงานการเมืองควรทำอยู่ในเกม อย่าเล่นนอกเกม เพราะแม้จะมีความเปลี่ยนแปลงก็เป็นการเปลี่ยนแปลงในรัฐสภา ไม่มีความรุนแรง แต่นี่เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรง แต่ผมเชื่อว่า มันจบแล้วล่ะ เพราะความเสียหายที่เกิดขึ้นกับทางการเมืองและประเทศทำให้อยู่ในสภาพนี้ในวันนี้ หลังจากนี้น่าจะเป็นมิติใหม่ที่ดี ทั้งทางการเมือง และแนวทางการกำหนดนโยบายที่จะวางทิศทางเพื่อแก้ปัญหาหลักของประเทศ
พรรค พท.เป็นที่วางใจของประชาชนในแง่ของเศรษฐกิจ เพราะเขามีบันทึกว่าจะแก้เรื่องอะไร และไม่ใช่เพียงการทำตัวเลขให้คนพอใจ แต่เป็นการทำให้คนสัมผัสได้ มีความชัดเจน ทั้งนี้ ผมไม่สามารถพูดแทนพรรค พท.ได้ในเรื่องนโยบาย เพราะพรรค พท.มีการวางนโยบายอยู่ และผมยังอยู่ข้างนอก ยังไม่ได้เข้าไป แต่คิดว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องปากท้องของพี่น้องประชาชน ให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น และมีโอกาสในการเข้าสู่แหล่งทุน ต้องก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง และทำอย่างไรให้ประชาชนระดับล่างมีความพึงพอใจในรายได้ที่ต้องเพียงพอต่อความเป็นอยู่ของเขาที่รายจ่ายเพิ่มขึ้นทุกวัน
คงต้องฝากพรรค พท.คิดว่า ขอให้มองเรื่องรายได้ของคนระดับล่างให้มากที่สุด แต่ต้องไม่ละเลยคนที่มีรายได้ระดับบนด้วย เพราะเป็นรายได้หลักของประเทศในการจ่ายภาษี
หัวใจสำคัญที่รัฐบาลหน้าเมื่อเข้ามาแล้วต้องทำเลย ก็คือเรื่องของเศรษฐกิจ ต้องมีการกระจายอำนาจเพื่อกระจายรายได้ ต้องดูอีกว่าการทำงานของรัฐบาลมีความคล่องตัวมากน้อยแค่ไหน เพราะเมื่อก่อนอาจจะมีความคล่องตัวมาก แต่ครั้งนี้เจออุปสรรคที่เขาไม่ได้เป็นเป็นคนกำหนดคือ 1.รัฐธรรมนูญ 2560 และ 2.ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ร่างขึ้นโดยคนรุ่นผม และรุ่นที่แก่กว่าผม แต่คนรุ่นลูกและรุ่นหลานผมยังต้องเดินตามยุทธศาสตร์นี้ ทั้งที่โลกวันนี้พัฒนาไปเร็วมาก วันนี้กับวันพรุ่งนี้อาจจะไม่เหมือนกันแล้ว ผมไม่ได้บอกว่าเนื้อหาของยุทธศาสตร์ 20 ปีไม่ดี สำหรับวันนี้เนื้อหาเขาดี แต่พรุ่งนี้มันอาจจะใช้ไม่ได้

⦁มองว่ายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นปัญหาต่อการพัฒนา และแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศใช่หรือไม่

Advertisement

ผมมองว่าอาจจะไม่ถึงขนาดเป็นปัญหา แต่มันจะเป็นตัวถ่วง เพราะถ้าผมต้องการแก้ไขปัญหาอะไรสักอย่าง ผมต้องเหลียวกลับไปดูตัวยุทธศาสตร์นี้ว่าผมจะขัดหรือไม่ และผมก็ไม่รู้ว่าถ้าผมทำไม่ถูกใจคนที่มีอำนาจในการลงโทษผม เขาจะมาลงโทษผมหรือไม่ ผมอาจจะทำอะไรที่เป็นแกนๆ ไม่ได้ ปัญหาก็จะไม่ได้รับการแก้ไข ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพรรคการเมืองทั้งหมดว่าจะทำอย่างไร ต้องทำให้มันมีการแก้ไขหรือปรับปรุงได้ตามสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

⦁วันนี้มีชื่อหวนกลับสู่ถนนสายการเมืองอีกครั้ง มีข่าวว่าจะมานั่งเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรค พท.

จริงๆ แล้วผมเคยเป็นอดีตรองหัวหน้าพรรค พท. มาทำนโยบายและดูเรื่องเศรษฐกิจมาโดยตลอด ตอนนี้ผมออกมาอยู่ข้างนอก ได้มองจากข้างนอกเข้าไป ได้เห็นภาพใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ ผมยังไม่ได้ถูกทาบทาม และช่วงนี้เป็นช่วงที่พรรค พท.กำลังจัดระเบียบภายใน ผมมองว่าเขาทำได้ดีมาก เพราะที่ผ่านมาจะเห็นถึงความไม่พร้อมของพรรค พท. ทั้งเรื่องหัวหน้าพรรค ใครจะอยู่ ใครจะไป ใครจะโดนดูด สังคมก็เกิดความรู้สึกว่าเกิดอะไรขึ้นในพรรค พท. พรรคจะแตกหรือเปล่า
แต่เมื่อวันที่พรรค พท.เปิดประชุมพรรค เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา มีการเปิดรับสมัครสมาชิก คนก็เข้าไปเต็มพรรค ต้องชื่นชมคนจัดการภายใน โรดแมปของพรรค พท.นับจากวันที่ 26 กันยายน สเต็ปต่อไปคือการเลือกคณะกรรมการบริหารพรรค ช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่ต้องชมยิ่งไปกว่านั้น คือการมีคนรุ่นใหม่กว่า 30 คน จะเป็นกลุ่มคนที่สำคัญมากในการเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรคอย่างจริงจัง
เขาเหล่านั้นต้องได้เข้ามามีส่วนในการกำหนดทิศทางและนโยบายของพรรค ไม่ใช่ว่าเห็นเป็นเด็กก็อยู่ส่วนเด็ก เวลานี้ความคิดของเด็กกับความคิดของเรานั้นแตกต่างกันมาก ต่อไปในอนาคต บ้านเมืองนี้จะเป็นของเขาแล้ว คนรุ่นก่อนๆ จะมาเป็นคนตั้งกติกาเพื่อให้คนรุ่นใหม่ไปใช้ต่อ ผมว่ามันไม่เป็นธรรม แต่ต้องให้เขาเข้ามา
นอกจากนี้ ผมมองว่าอนาคตเทคโนโลยีจะให้ประโยชน์ต่อประเทศชาติมากกว่าโทษ ดังนั้นห้ามปิดกั้นเรื่องนี้เด็ดขาด ถ้าคุณปิดตรงนี้เท่ากับปิดประเทศ กฎหมายควรเป็นเพียงการควบคุมและดูแลเรื่องการละเมิดสิทธิ แต่ไม่ควรใช้กฎหมายนี้ในทางการเมือง

Advertisement

⦁มีชื่อว่าจะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค พท.ด้วย

โห เรื่องการเป็นหัวหน้าพรรค พท.นี่เป็นเรื่องใหญ่นะในพรรค พท.มีผู้หลักผู้ใหญ่อยู่หลายคน และหลายคนก็มีความเหมาะสม ที่ผ่านมามีแต่คนข้างนอกพูดว่าคนนี้เป็น คนนั้นเป็น ในขณะที่คนข้างในไม่มีใครพูดเลยว่าอยากเป็น ทุกตำแหน่งต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค ไม่ใช่ว่าจะมาตั้งตัวเองเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ หรือหัวหน้าพรรคได้
ณ วันนี้ ผมยังไม่แน่ใจเลยว่าใครจะได้เป็น อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวของผม ผมอยู่ทางการเมืองมานานดังนั้น อะไรที่ผมคิดว่าเป็นประโยชน์กับสังคม กับประเทศชาติได้ผมก็พร้อมที่จะทำ แต่จะให้ไปเป็นถึงหัวหน้าพรรคนั้นเรื่องใหญ่มาก คงต้องพิจารณาในหลายอย่างประกอบกันด้วย

⦁ในอดีตเคยร่วมงานกับหลายๆ คนในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ประเมินความสำเร็จของพรรคนี้อย่างไรบ้าง

ผมยังไม่เห็นนโยบายของเขา ผมเข้าใจว่าเรื่องยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ต้องมีอยู่ เพราะมาจากการออกกฎหมายในรัฐบาลของเขา และแนวทางในการบริหารเศรษฐกิจของรัฐบาลในวันนี้ก็ได้เห็นแล้ว ทั้งเรื่องโครงการพัฒพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) แต่จะตอบโจทย์ครอบคลุมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ได้เติบโตไปด้วยหรือไม่นั้น ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลย่อมรู้ดีว่าดีหรือไม่ดีอย่างไร นี่คือเรื่องที่ผ่านมา แต่นโยบายในอนาคตผมยังไม่เห็น แต่ถึงอย่างไรก็ต้องอยู่ภายใต้กรอบที่เขาสร้างมาอยู่ดี

⦁นโยบายของพรรค พท.ในการเลือกตั้งครั้งหน้าควรมีอะไรบ้าง

พรรค พท.ผ่านอะไรมาเยอะแล้ว เห็นถึงจุดอ่อนในนโยบายแต่ละนโยบาย ตรงนี้ต้องมานั่งดูกัน มาคุยกันว่าจะแก้ไขปัญหาของนโยบายที่ผ่านมาได้อย่างไร เพื่อให้นโยบายต่างๆ เกิดประสิทธิภาพอย่างสูงสุดได้ นี่คือในส่วนของนโยบายเก่า แต่ที่ผมให้ความสำคัญที่สุดตอนนี้คือคนรุ่นใหม่ เราจะทำให้เขาโตได้อย่างไร จะวางพื้นฐานให้เขาเดินต่อไปได้อย่างมั่นคงได้อย่างไร ถ้าคนรุ่นเก่ายังทะเลาะกันอยู่ คนรุ่นใหม่เขาจะเดินไปได้อย่างไร วันนี้ ตรงนี้ของเราต้องจบแล้วเรื่องนี้ แล้วหันหน้าเข้าหากัน ช่วยกันมองว่าประเทศจะเดินต่อไปได้อย่างไร และที่สำคัญต้องเล่นกันอยู่ในเกม อย่าออกนอกเกม
ทั้งนี้ ถ้าผมจะสามารถให้ข้อเสนอหรือคำแนะนำกับพรรค พท.ได้ ผมอยากให้คนรุ่นใหม่เข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่วันแรกเลย ให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหาร ไม่ใช่แค่ให้เขามาแสดงความคิดเห็น แต่ต้องให้เขามีส่วนในการกำหนดนโยบายด้วย

⦁จุดอ่อนของพรรค พท.คือการชนะเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถบริหารชัยชนะให้ยั่งยืนได้

ตอนปี 2540 พวกเรามีความรู้สึกว่าเสถียรภาพรัฐบาลเป็นเรื่องที่สำคัญในการที่จะทำให้บ้านเมืองก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง ก็มีการออกแบบรัฐธรรมนูญให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ แต่วันนี้ก็ออกแบบรัฐธรรมนูญใหม่ออกมา แล้วให้รัฐบาลมีเสถียรภาพน้อยลงอีก การเลือกตั้งครั้งหน้า พรรค พท.จะมั่นคงหรือไม่ ประกอบด้วยหลายส่วน หนึ่งคือนโยบาย ต้องไม่ขัดแย้งกับแนวทางของรัฐธรรมนูญ
ต่อมาคือ ฝ่ายการเมือง ถ้าพรรคใหญ่ๆ ที่จะได้เสียงพอสมควรสามารถมานั่งพูดคุยกันได้ว่าสิ่งที่อยากจะเห็นในประเทศคืออะไร แล้วพรรคการเมืองเห็นร่วมกัน ไม่มีความขัดแย้งกัน แบบนี้จะไปได้ เพราะถ้าคอยแต่สกัดกัน มันก็ไม่ยั่งยืน
วันนี้ถึงเวลาแล้วที่พรรคการเมืองต่างๆ จะมาร่วมมือกันทำงานในส่วนของการทำเพื่อบ้านเมือง วันนี้ต้องมองที่เป้าหมายใหญ่คือประเทศชาติเป็นหลัก

⦁พรรค พท.ถูกโจมตีมาโดยตลอด เรื่องการรับคำสั่งจากคน คนหนึ่ง ตรงนี้เป็นโจทย์ที่ต้องแก้ไขด้วยหรือไม่

ต้องถามกลับว่ามองที่ต้นทางหรือปลายทาง ถ้าเรามองที่ประชาชนได้ประโยชน์อะไร เราจะไปสนใจทำไมว่าใครให้ความเห็นอย่างไร เพราะทุกคนต่างก็มีสิทธิที่จะแสดงความคิดเห็น เหมือนวันนี้ ผมเป็นคนนอกที่แสดงความเห็น แล้วพรรค พท.เขาอาจจะชอบ ชอบแล้วอาจจะเอาไปดู แต่ดูแล้วเขาอาจจะเอาไปใช้หรือไม่ใช้ก็ได้
ดังนั้น หากวันนี้เรายังมองนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่าเป็นประโยชน์อยู่ จะไม่รับฟังความคิดเห็นของเขาเชียวหรือ ทั้งนี้ด้วยความสัตย์จริง ผมไม่เคยรู้เลยว่านายทักษิณเข้ามาสั่งการอะไร ผมไม่เคยได้รับโทรศัพท์จากนายทักษิณในการที่จะโทรมาสั่งให้ผมทำอะไรเลย
ที่สำคัญผมเข้าใจว่าหลายฝ่ายไม่อยากจะกลับมาสู่วังวนของความขัดแย้งอีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้น ปัจจัยต่างๆ ที่จะนำมาสู่ความขัดแย้ง ทุกฝ่ายจะต้องพยายามลดปัจจัยนั้นๆ ไม่ให้เกิดขึ้น

ศุภกาญจน์ เรืองเดช

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image