เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ที่บริเวณสวนประวัติศาสตร์ธรรมศาสตร์ หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ มีการจัดงานครบรอบ 42 ปี 6 ตุลา 2519 โดยมีผู้ทยอยเดินทางเข้าร่วมงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เวลาเช้าตรู่ ก่อน 07.00 น. บางส่วนส่วมเสื้อยืดสกรีนภาพและข้อความ “เราไม่ลืมจารุพงษ์” เพื่อรำลึกถึงนายจารุพงษ์ ทองสินธุ์ นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ต่อมา เวลา 07.30 น. มีการตักบาตรพระสงฆ์ 19 รูป โดยมีผู้ร่วมทำบุญจำนวนมาก ต่อมา เวลา 08.30 น. เป็นพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการ
รองศาสตราจารย์ เกศินี วิฑูรชาติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 เป็นการต่อสู้ของคนหนุ่มสาวเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ความถูกต้องในสังคมไทย เป็นบาดแผลของแผ่นดิน ที่ควรจารึกให้คนรุ่นหลังเรียนรู้ถึงการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
“จากคำพูดที่ว่า ถ้าเราไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ ก็ไม่มีทางที่เราจะสร้างอนาคตที่ดีได้ ทำให้รู้สึกว่าเราต้องตระหนักในคุณค่าและเกิดจิตสำนึกในการดำรงไว้ซึ่งความมุ่งมั่นที่จะรักษาความถูกต้องและความดีงามของสังคม 6 ตุลาคม 2519 เป็น 42 ปีที่กำลังจะผ่านไปกับความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ เราเห็นการเดินทางของการเมืองไทย เห็นเส้นชีวิตของการเคลื่อนไหวของนักศึกษา เราทุกคนและอีกหลายคนก็มุ่งมั่นด้วยความหวังและศรัทธาที่ต้องการให้สังคมไทยดีขึ้น”
จากนั้นเป็นการยืนสงบนิ่งเพื่อแสดงความอาลัยและคารวะต่อผู้เสียชีวิตโดยมีการอ่านรายชื่อผู้ล่วงลับทั้งหมด รวมถึงการวางพวงมาลาที่ “ประติมานุสรณ์ 6 ตุลาคม 2519” โดยผู้แทนองค์กรจำนวนมาก รวมถึงตัวแทนพรรคการเมืองต่างๆ
นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์
นายกิตติณัฐ เล้า รักษาการประธานสภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า 6 ตุลาคม ณ ที่แห่งนี้ เกิดเหตุการณ์ที่เป็นความสูญเสียมากที่สุดเหตุการณ์หนึ่งในประเทศไทย ผู้คนเข่นฆ่าเพราะความเห็นต่าง และตลอดเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าสังคมไทยไม่ได้เรียนรู้จากบทเรียนนี้เลย เพราะยังเกิดความรุนแรงจากความเห็นต่าง
นายกิตติพงศ์ สุคนธปฏิภาค เลขาธิการองค์การนศ.มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า แม้ตนไม่ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 แต่ตนขอแสดงความชื่นชมความกล้าหาญของวีรชน ขอสดุดีดวงวิญญาณทุกดวง นักศึกษา “ธรรมศาสตร์” ไม่ลืม 6 ตุลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกิตติพงศ์ ยังขับเสภาที่แต่งขึ้นด้วยตนเอง มีเนื้อหาสดุดีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว อย่างสะเทือนอารมณ์ ท่ามกลางผู้เข้าร่วมงานที่ยืนนิ่งฟังจำนวนมาก
บรรยากาศในงานมีผู้ทยอยเข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง โดยกำหนดการตั้งแต่เวลา 10.00 น. จนถึงช่วงเย็นเป็นงานเสวนาทางวิชาการ รวมถึงมีการจำหน่ายเสื้อยืด 100 ปี ชาตกาลอัศนี พลจันทร์ และหนังสือราคาย่อมเยา อาทิ ด้วยรักแห่งอุดมการณ์ ของ วัฒน์ วรรลยางกูร, ถึงร้อยดาวพราวพรายกระจายแสง จากโครงการสรรพนิพนธ์ จิตร ภูมิศักดิ์, พฤษภา-พฤษภา สังคม รัฐไทย กับความรุนแรงทางการเมือง บรรณาธิการโดย ชาญวิทย์ เกษตรศิริ และ ประวัติศาสตร์โปรตุเกส จากจักรวรรดิทางทะเล สู่สาธารณรัฐประชาธิปไตย โดย สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ เป็นต้น
