“จตุพร” ชี้ เมื่อ กม.ประชามติประกาศแล้ว กรธ.-สนช.-องค์กรของรัฐต้องหยุดชี้แจง ให้เป็นหน้าที่ กกต.โดยตรง
เมื่อวันที่ 25 เมษายน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการมองไกล ว่า ฝ่ายมีความเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญ โดยคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เขียนรัฐธรรมนูญเสร็จ และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้เสนอคำถามพ่วงไปร่วมทำประชามติแล้ว ถือว่าสิ้นสุดกระบวนการทำหน้าที่ จึงไม่มีหน้าที่ต้องไปชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญอีก ควรให้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการรณรงค์ทำประชามติ ถ้าอยู่บนพื้นฐานเสมอภาคกันแล้ว เมื่อฝ่าย กรธ. และ สนช.ชี้แจงร่างรัฐธรรมนูญได้ ควรให้ฝ่ายที่เห็นต่างมีเวทีชี้แจงความเห็นกับประชาชน ดังนั้น จะทำประชามติไปทำไม เมื่อไม่มีที่ยืนให้ฝ่ายเห็นต่าง ก็ไม่ต้องทำประชามติ สิ่งสำคัญ กฎหมายประชามติห้ามวิพากษ์วิจารณ์ในสิ่งที่ไม่เห็นด้วย และยังข่มขู่ว่า การแสดงความเห็นก้าวร้าว รุนแรง หยาบคาย ปลุกระดม และข่มขู่ มีโทษติดคุก 10 ปี อย่างไรก็ตาม เมื่อตัดสินใจทำประชามติแล้ว คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กับรัฐบาลต้องรู้จักตัวเอง รู้จักหน้าที่ ซึ่งเป็นของ กกต. รวมทั้งองค์กรอื่นอย่าได้มาแทรกแซง เพราะไม่มีหน้าที่ และเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาการทำประชามติแล้ว กรธ. สนช. สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ต้องหยุดการทำหน้าที่เกี่ยวกับประชามติ และต้องหยุดชี้แจงทุกอย่างด้วย ยกเว้น กกต. จะร้องขอการสนับสนุน ให้ช่วยอำนวยความสะดวกเท่านั้น
นายจตุพรกล่าวว่า นปช. ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันสนับสนุน กกต. ได้ทำหน้าที่การทำประชามติให้โปร่งใส เที่ยงธรรม โดยได้เสนอไปแล้วว่า เมื่อพม่าให้กลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้าไปสังเกตการณ์เลือกตั้งมาแล้ว ดังนั้นการทำประชามติของไทย ควรเปิดโอกาสให้องค์กรเหล่านี้มาสังเกตการณ์ช่วงทำประชามติด้วย แต่ผู้มีอำนาจไทยไม่เอา ทั้งๆ ที่ประกาศว่าเป็นรัฐธรรมนูญปราบโกง ดังนั้น อย่ามาบอกว่า บริสุทธิ์ ถ้าจริงอย่ากลัว เพราะอีกไม่กี่วัน นปช.จะเปิดเว็บไซต์ เปิดเบอร์โทรให้แจ้งการทำประชามติ ซึ่งจะเสนอข้อมูลผ่าน กกต. นำไปดำเนินการ อย่าคิดว่าการทำประชามติจะไม่มีใครรู้เรื่องเลย แต่เรามีพวกอยู่ทั่วประเทศ ย่อมเห็นได้ทุกอย่าง เพื่อป้องกันปัญหาว่า การทำประชามติที่มีการโกงกันมากที่สุด จึงควรให้ทุกองค์กรมาสังเกตอำนวยความสะดวก เพื่อเกิดความโปร่งใส การทำประชามติที่มีคนสังเกตการณ์จะทำให้ต่างประเทศเกิดบรรยากาศผ่อนคลาย
นายจตุพรกล่าวว่า ส่วนนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. ออกมาหนุนร่างรัฐธรรมนูญนั้น พวกตนมีความสุขที่สุด เพราะทำให้จุดยืนของแต่ละฝ่ายมีความชัดเจน โดยแตกต่างกับจุดยืนของ นปช. พรรคเพื่อไทย (พท.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จึงเรียกร้องให้ประชาชนไปใช้สิทธิทำประชามติให้มาก ตามการตัดสินใจแต่ละคน เพื่อสะท้อนถึงการกำหนดอนาคตของตัวเอง และลูกหลานรุ่นใหม่
