ผู้เขียน | สุชาติ ศรีสุวรรณ |
---|
ถ้าเผด็จการไปได้ดี สามารถบริหารจัดการประเทศที่ได้รับการยอมรับทั้งในและต่างประเทศ นำชาติกลมกลืน
ไปกับความเป็นไปของโลกได้
คงไม่ต้องนำประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย
แต่เพราะรับรู้กันอยู่ทุกคนทุกฝ่ายว่า แม้จะสนองความอยากของบางคนบางกลุ่มได้มากกว่าแค่ไหน แต่ที่สุดแล้วเผด็จการไปไม่ได้ ไม่ใช่หนทางที่จะนำพาประเทศให้พัฒนาไปอย่างที่เหมาะที่ควร
จึงต้องจัดการเลือกตั้ง อันเป็นรูปแบบของประชาธิปไตย
ทว่าปัญหาประชาธิปไตยของประเทศเราอยู่ที่ความสงบเรียบร้อย
ทำอย่างไรจะเป็นประชาธิปไตยที่ไม่มีความวุ่นวาย
แม้จะพยายามชี้ให้เห็นว่าเหตุที่บ้านเมืองไม่สงบ มีแต่ความวุ่นวายเพราะนักการเมืองเป็นตัวปัญหา เป็นคนไม่ดี
แต่ลึกลงไปแล้วทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจ ว่าเป็นเพราะกลุ่มคนที่ถือว่าตัวเองเหนือกว่า เก่งกว่า ฉลาดกว่า ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ประชาชนเลือกที่จะให้อำนาจไปตกอยู่กับคนกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่พวกตน
ความจริงหนึ่งที่คิดกลบฝังทำเป็นไม่รับรู้ไม่ได้ คือความวุ่นวายของบ้านเมืองเกิดขึ้นจากคนกลุ่มที่เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศโง่เง่า ไม่ควรจะให้สิทธิที่เท่าเทียมในการมีส่วนร่วมปกครองประเทศ เพราะให้แล้วมีแต่ละเลือกคนไม่ดีเข้ามามีอำนาจ
ซึ่งความหมายของ “คนไม่ดี” ก็คือ “คนที่ไม่ใช่อยู่ในกลุ่มในพวกตัว” นั่นเอง
การเปิดทางให้ “เผด็จการ” เข้ามาสร้างประชาธิปไตยแบบใหม่ ลดความเท่าเทียมของสิทธิประชาชนลงไปจึงเกิดขึ้น
ด้วยความหวังว่า “สิทธิที่ไม่เท่าเทียม” จะเป็นทางออกให้ประเทศเป็นแผ่นดินประชาธิปไตยที่มีความสงบได้
และ “รัฐธรรมนูญ” ที่เป็น “กติกาสูงสุดของโครงสร้างอำนาจรัฐ” ก็งอกออกมาจากแนวความคิด “คนดี” ที่มาจากการ “สถาปนาตัวเอง” ต้องมีโอกาสในอำนาจมากกว่าจึงเกิดขึ้น
ความเป็นไปเช่นนี้ แม้จะมีความอึดอัดอยู่บ้าง จนบางคนที่เลือดรักความเป็นธรรมร้อนแรงทนไม่ไหว ต้องระบายด้วยการแสดงออกในทางต่อต้าน รุนแรงบ้าง ไม่รุนแรงบ้าง แม้จะรู้ว่าเสี่ยงต่อการถูกคุกคามเสรีภาพก็ยอม เพราะไม่อาจทนแรงอัดอั้นภายในใจของตัวเองได้
แต่ประชาชนส่วนใหญ่ แม้กระทั่งนักการเมืองยอมแล้วที่จะให้ประเทศดำเนินไปด้วยวิธีคิดเรื่องสิทธิประชาชนแบบไม่เท่าเทียมนี้
เพียงขอให้มีการเลือกตั้ง ให้เป็นประเทศมีภาพของประชาธิปไตย
เพราะรับรู้กันว่าเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้กลับมาพัฒนาในวิถีของโลกได้
ยอมที่ทำงานการเมืองในกติกาที่เสียเปรียบนั้น แม้จะไม่เต็มอกเต็มใจนัก ด้วยความหวังว่าหลังเลือกตั้งแผ่นดินไทยจะมีประชาธิปไตยที่มาพร้อมกับความสงบ ไม่ถูก “คนดีสถาปนาตัวเอง” ออกมาปฏิบัติการเพื่อปฏิเสธการมีส่วนร่วมของประชาชนส่วนใหญ่อีก
แผ่นดินที่สงบเรียบร้อยคือความปรารถนา แม้จะต้องจำนนต่อการให้ “อภิสิทธิ์ชน” มีโอกาสในอำนาจมากกว่าก็ยอม
ในสภาพแบบนี้ มันน่าจะจบ หากคนบางกลุ่มบางฝ่ายมีสำนึก มีความละอายว่าแค่นี้ก็มากพอแล้ว ไม่ควรใช้อำนาจที่เหนือกว่ามาทำให้เกิดความได้เปรียบมากขึ้นในการเลือกตั้ง
ในเรื่องบางเรื่อง หากมีสำนึกที่ดี มีความละอาย ไม่หลงในอำนาจ จะต้องไม่ทำในสิ่งที่สะท้อนถึงการไม่คิดถึงความรู้สึกของประชาชนจนมากเกิน ท้าทาย กดข่มความรู้สึกไม่ชอบธรรมในใจคนมากเกินไป
คงไม่จำเป็นต้องสาธยายในรายละเอียด ว่าพฤติกรรมเอาเปรียบอย่างน่ารังเกียจนั้นมีเรื่องอะไรบ้าง เพราะไม่เพียงแต่สามารถตรวจสอบเอาจากเสียงร้องที่ชี้ให้เห็น
ความไม่ชอบธรรมที่หาได้ไม่ยากแล้ว หากมีสำนึกในคุณธรรมอยู่บ้าง แม้เพียงเล็กน้อย ย่อมรู้อยู่แก่ใจว่าได้นำพาตัวเอง
ไปทำในเรื่องที่สะท้อนความไร้สำนึกอย่างไรบ้าง
หลังเลือกตั้ง แผ่นดินไทยของเราทุกคนควรคืนสู่ประชาธิปไตยที่มีความสงบเรียบร้อย เพื่อให้ประเทศพัฒนาไปได้อย่างที่ควรจะเป็น
ประชาชนส่วนใหญ่ยอมสูญเสีย “สิทธิที่เท่าเทียม” ไประดับหนึ่งแล้ว
อย่าได้หลงระเริงในอำนาจกระทั่งไปสร้างเงื่อนไขที่กดดันให้เกิดความอึดอัดจนมากมายเลย
ด้วยทุกคนย่อมรู้อยู่แก่ใจว่า ถึงอย่างไร “เผด็จการ” ก็ไม่ใช่ทางเลือกนำพาประเทศไปได้
อย่าสร้างเงื่อนไขที่จะทำให้เกิดซ้ำขึ้นอีกเลย
สุชาติ ศรีสุวรรณ