บทนำ : รำลึก 13 ตุลาฯ 2559

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 หรือสองปีก่อน เป็นวันแห่งความทรงจำร่วมกันของประชาชนชาวไทย เพราะเป็นวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 รัชสมัยของพระองค์ยาวนานถึง 70 ปี จาก พ.ศ.2489-2559 และตลอดเวลา 70 ปี ทรงประกอบพระราชกรณียกิจตามพระปฐมบรมราชโองการที่ว่า เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม อย่างต่อเนื่องและเป็นจริง นำพาคุณภาพชีวิตในด้านต่างๆ มาสู่พสกนิกรทุกภาคโดยทั่วหน้า กลายเป็นความผูกพันอันลึกซึ้ง ระหว่างพระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ กับประชาชนคนไทย เมื่อข่าวแพร่กระจายไป ความโศกเศร้าอาดูรก็เข้าครอบงำทั้งแผ่นดิน

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 ได้ทรงตอบรับขึ้นทรงราชย์ว่า เพื่อสนองพระราชปณิธาน และเพื่อประโยชน์ของประชาชนชาวไทยทั้งปวง และตลอดเวลาหลังจากนั้น ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชนในภาวะแห่งความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ พสกนิกรชาวไทยพร้อมใจกันแต่งดำไว้ทุกข์ ต่อมาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาอนุญาตให้ประชาชนทุกคนเข้ากราบสักการะเบื้องหน้าพระบรมศพ ถนนทุกสายมุ่งสู่พระบรมมหาราชวัง ตลอด 337 วัน ประชาชนเข้าสักการะพระบรมศพ 12,739,531 คน ถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน ทั้งสิ้น 889,545,100.01 บาท สะท้อนความผูกพันและความจงรักภักดีอย่างไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ

พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติยศ ณ พระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม พ.ศ.2560 โดยวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ.2560 เป็นวันถวายพระเพลิง ทุกส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นพระราชพิธี ผู้เกี่ยวข้องทุ่มเทฝีมือและความพยายามจัดทำขึ้น เพื่อเแสดงความจงรักภักดีและความกตัญญู สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ประชาชนจำนวนมากมาร่วมส่งเสด็จถึงบริเวณพระราชพิธีที่ท้องสนามหลวง จนเต็มพื้นที่ และอีกจำนวนมากเข้าร่วมพระราชพิธีที่จัดขึ้นในทุกจังหวัด ในบรรยากาศเศร้าสลด

ในวาระครบสองปีของวันสวรรคต พสกนิกรยังจดจำพระราชกรณียกิจต่างๆ ได้อย่างกระจ่างชัด และเข้าใจตรงกันว่า การน้อมสำนึกพระมหากรุณาธิคุณที่ดีที่สุดคือ ก้าวเดินต่อไป แปรความสูญเสียเป็นพลังในการพัฒนาสังคมและประเทศ สร้างความสามัคคีและความก้าวหน้าตามแนวทางพระราชดำริที่พระองค์ทรงริเริ่มไว้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image