อดีตส.ส.อีสานไม่ทน! กว่า 40 คน ลุยพบ”ภูมิธรรม”แจ้งไม่เอา”หญิงหน่อย”นำพรรค

อดีตส.ส.อีสานไม่ทน! กว่า 40 คน ลุยพบ “ภูมิธรรม” เลขาธิการพรรค แสดงความประสงค์ไม่ให้ “หญิงหน่อย” นำพรรคพท. ของขึ้นหลัง “หญิงหน่อย” ยุ่งเรื่องวางตัวผู้สมัครพื้นที่ต่างๆ

เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม รายงานข่าวแจ้งว่า กลุ่มอดีต ส.ส.ภาคอีสานที่ไม่เห็นด้วยและไม่สนับสนุนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคพท.เป็นผู้นำพรรค ประมาณ 40 คน เดินทางมาที่พรรคพท.เพื่อไปพูดคุยทำความตกลงกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคพท. เรื่องของตัวผู้นำพรรค โดยทั้งหมดไม่ประสงค์ให้คุณหญิงสุดารัตน์มาเป็นผู้นำพรรค เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ควบคุมและดำเนินการทุกอย่างภายในพรรคอย่างเบ็ดเสร็จมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องของการจัดตัวบุคคลลงสมัครในจังหวัดต่างๆ ซึ่งคุณหญิงสุดารัตน์เข้าไปก้าวก่ายการคัดสรรผู้สมัครเกือบทุกเขต อีกทั้งยังส่งบุคคลใกล้ชิดเข้ามาควบคุมอีกชั้นหนึ่ง ทำให้อดีต ส.ส.อีสานต่างไม่พอใจอย่างมาก และเรียกร้องให้คุณหญิงสุดารัตน์ไปจัดสรรผู้สมัครเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็พอ ทั้งนี้ หากยังเป็นชื่อคุณหญิงสุดารัตน์นำพรรค อดีตส.ส.อีสานก็จะไม่ทำอะไร ไม่งัด แต่ก็ไม่ทำงานด้วย ถ้าเขาทำงาน เราก็ยืนมองดูไป ให้กำลังใจกันไปเพียงเท่านั้น

ส่วนความเคลื่อนไหวของการย้ายไปพรรคสำรองของอดีตส.ส. แหล่งข่าว ระบุว่า ขณะนี้ในพื้นที่เกิดความสับสนอย่างมากว่าจะเป็นพรรคไหนกันแน่ จะพท. เพื่อธรรม (พธ.) หรือเพื่อชาติ (พช.) โดยเฉพาะจะพท. หรือพธ. ก็ควรจะให้มีความชัดเจนว่าจะต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งเท่านั้น เพราะในพื้นที่จะทำงานยากมาก และจะเป็นการมาตัดคะแนนกันเองหรือเปล่า ซึ่งวันสองวันนี้จะมีอดีตส.ส.ส่วนหนึ่งไปคุยทำความเข้าใจกับคนที่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ว่ามีเหตุผลอย่างไร และจะเอาอย่างไรกันต่อ ทั้งนี้ หลายฝ่ายได้เสนอไปแล้วว่า ถ้าจะอยู่พท.ก็อยู่ แต่หากกลัวพรรคพท.ถูกยุบก็ย้ายไปอยู่พรรคพธ.ให้หมด คือถ้าจะไปก็ไปทั้งหมด ไม่ใช่เขตนี้อยู่เขตนี้ไป แบบนี้จะยิ่งทำให้สับสน และไม่เป็นผลดี อย่างไรก็ตาม หากจะย้ายพรรคจริงอดีตส.ส.ในส่วนของภาคเหนือ และภาคอีสานเราก็พร้อม โดยเราตกลงกันว่าถ้าจะไปก็ไปด้วยกันทั้งหมด คิดว่าเรื่องนี้จะมีความชัดเจนในวันที่ 28 ตุลาคมที่มีการประชุมใหญ่ด้วย

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ตอนนี้เราก็มานั่งคุยกันว่า กลุ่มพวกปาร์ตี้ลิสต์ ก็คิดแบบปาร์ตี้ลิสต์ เขาไม่ได้คิดว่าเลือกมาได้มาก เลือกน้อยได้น้อย ทั้งที่บัตรใบเดียวสร้างความได้เปรียบให้เราแท้ๆ เพราะเราเป็นพรรคใหญ่ คนเลือกเรามากเราก็ได้มาก นอกจากนี้ ถ้าใช้ฐานเดิมคิดคะแนนอย่างไรเราก็ได้ส.ส.เขตบวกลบประมาณ 190 คน ซึ่งถ้าเราได้ส.ส.เขตประมาณนี้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เราก็จะได้ประมาณ 50 คนอยู่ดี วันนี้ความเห็นยังไม่ตรงกันเสียทีเดียว เพราะก็มีข้อได้เปรียบเสียเปรียบ และข้อระวังในเรื่องของการยุบพรรค ก็คงต้องรอความชัดเจนจากคนที่สามารถอธิบายเรื่องนี้ได้ก่อน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image