‘ภูมิธรรม’ปัดข่าว40อดีตส.ส.อีสานค้าน”หญิงหน่อย”ขึ้นหน.พรรค ยัน28ต.ค.นี้ ทุกปัญหายุติ

“ภูมิธรรม” ยืนยันทุกปัญหาความขัดแย้งภายในพรรคเพื่อไทยจะยุติ 28 ต.ค. นี้ ปัดข่าวลือ 40 อดีตส.ส. อีสานค้าน “หญิงหน่อย” ขึ้นหัวหน้าพรรค ระบุคสช.ออกกฎหมายผิดปกติ ปิดกั้นหาเสียง แนะ ควรปลดล็อกให้ทุกพรรคทำกิจกรรมกับปชช.

เมื่อเวลา 12.10 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความพร้อมในการประชุมกรรมการบริหารพรรคในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ว่า จะเป็นการประชุมเพื่อรับรองการประะชุมครั้งที่แล้ว และเลือกหัวหน้าพรรค เมื่อได้หัวหน้าพรรคก็จะเสนอรายชื่อกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ทั้งชุดให้ที่ประชุมรับรอง หรือออาจจะมีการเสนอผู้สมัครท่านอื่นมาแข่งขันด้วยก็ได้ ซึ่งจะมีการลงมติในวันนั้น โดยทั้งหมดเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย จากนั้นจะเลือกกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง 11 คน ตามกฎหมาย ซึ่งใน 11 คนนี้จะมีกรรมการบริหาร 4 คน โดยตำแหน่ง และสมาชิกพรรคคนอื่นๆอีก 7 คน และยืนยันว่า หากผ่านกระบวนการใดๆในวันที่ 28 ตุลาคมไปแล้วก็ต้องมีเรื่องที่ได้ข้อยุติ และเมื่อบริหารพรรคไปแล้วหากมีปัญหา เมื่อครบรอบก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงตามปกติ

เมื่อถามว่า กรณีที่กลุ่มอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย 40 คนเดินทางมาพบเพื่อคัดค้านการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนยังสับสนข้อมูลที่ได้รับมา และย้ำว่าไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น แต่ยอมรับว่ามีการพูดคุยกับ อดีตส.ส.ต่างๆ เมื่อวานนี้ เป็นการเล่าถึงสถานการณ์ต่างๆของพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะข่าวลือที่บอกว่าภายในพรรคมีความเห็นต่างเกิดขึ้น ซึ่งตนมองว่าความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้แตกต่างจากที่เป็นอยู่ กรรมการบริหารพรรคชุดเดิม ชุดรักษาการ รวมถึงกรรมการบริหารชั้นผู้ใหญ่ยังคงมีเอกภาพ ขณะนี้กำลังตรวจสอบที่มาของข่าวลือที่ทำให้เกิดความสับสนและเป็นปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เสียงเห็นต่างที่หลากหลายจะทำให้ผู้ที่เข้ามาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคทำงานได้ยากขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ยากแน่นอน รับประกันได้ว่า ทุกอย่างจะเป็นข้อยุติหากผ่านกระบวนการพรรคที่ได้คุยกัน ผลการตัดสินเป็นอย่างไรพรรคก็จะเดินไปตามความเป็นจริงที่เป็นฉันทานุมัติร่วมกัน ไม่ต้องกังวล ทุกอย่างจะเดินหน้าได้อย่างดี

Advertisement

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึงกระแสข่าวมีอดีต ส.ส.เดินทางไปฮ่องกงเพื่อเคลียร์เรื่องหัวหน้าพรรคกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั้น ว่ายังไม่ทราบ และยังไม่มีข่าวนี้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของทุกพรรคการเมืองที่จะต้องมีสภาวการเปลี่ยนคณะกรรมการชุดใหม่ ซึ่งในกระบวนการนี้ก็จะเห็นถึงการเสนอความเห็นต่าง แต่สุดท้ายก็ต้องได้ข้อยุติร่วมกัน ดังนั้นวันนี้ข่าวจึงเป็นข่าวที่ลือกันออกไปที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า หากคุณหญิงสุดารัตน์ ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคจะไม่มีความแตกแยกเกิดขึ้นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ว่าจะเลือกใครก็ตามถ้าเป็นฉันทานุมัติ เชื่อว่าจะเป็นข้อยุติ และสมาชิกทุกคนมีวินัย ระบอบประชาธิปไตยก็เช่นเดียวกัน เราให้พี่น้องประชาชนตัดสินเรื่องรัฐบาล เมื่อเลือกมาแล้วพอใจหรือไม่พอใจก็ต้องรอให้ถึงวาระของการพิจารณาใหม่ สำหรับในพรรค กรรมการบริหารพรรคก็ต้องเสนอแนวทาการทำงาน เมื่อตัดสินใจเลือกใครไปแล้วก็ต้องให้เวลาเขาทำงาน ซึ่งจะพอใจหรือไม่ผลงานจะเป็นตัวชี้วัด

เมื่อถามว่า ความไม่ชัดเจนของรายชื่อบุคคลที่ขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค รวมถึงการเสนอ 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรี จะทำให้กลายเป็นจุดอ่นอและทำให้คะแนนนิยมลดลงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในเรื่องนี้ยังไม่มีพรรคใดชัดเจนสักพรรคหนึ่งซึ่ง 3 รายชื่อนายกรัฐมนตรีจะเกิดขึ้น เมื่อมีการประกาศพรระราชกฤษฎีกาประกาศการเลือกตั้ง และตามกฎหมายจะต้องรอตรงนั้น ส่วนเรื่องหัวหน้าพรรคกฎหมายอนุญาตให้ดำเนินการจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม ก็เป็นกระบวนการของพรรคตามปกติ ใน1-2 เดือนนี้จะต้องปรับกระบวนการทำงานของพรรคให้เป็นไปตามข้อกฎหมาย

“ทุกคนที่เห็นอยู่เป็นรักษาการหัวหน้าพรรคทั้งสิ้น ดังนั้นหัวหน้าพรรคจะชัดเจนภายในเดือนนี้ จนถึงเดือนหน้า พรรคภูมิใจไทยก็เพิ่งชัดเจนเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนี่เป็นกระบวนการตามปกติ เพราะฉะนั้นบางทีบางท่านก็คิดไปต่างๆนาๆ ก็เป็นการคิดไปเอง ผมคิดว่ายังเป็นกระบวนการตามปกติ เมื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคได้แล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการและเมื่อมีพระราชกฤษฎีกาเมื่อไหร่ก็จะเสนอรายชื่อ 3 นายกรัฐมนตรีให้พิจารณา” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่า เรื่องนี้ต้องถึงมืออดีตนายกฯทักษิณหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้อนถามว่า ทำไมต้องถึงมือนายทักษิณด้วย ทั้งหมดเป็นเรื่องภายในพรรคที่ผู้ที่เกี่ยวข้องจะเป็นผู้ตัดสิน ส่วนกรณีที่อดีต ส.ส.เดินทางไปพบจะทำให้เกิดความกังวลว่าจะยุบพรรคหรือไม่นั้น เรื่องกลัวการยุบพรรค เป็นเรื่องที่ฝ่ายต่างๆมโนและคิดกันไปเอง การที่อดีตส.ส. นักการเมือง หรือบุคคล จะทำอะไรก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ประชาชนคนไทยมีสิทธิที่จะเดินทางไปไหนทำอะไรก็ได้ สิ่งที่กฎหมายพูดถึงคือเรื่องครอบงำกิจกรรมทางการเมือง นั้นหมายถึงว่าจะต้องมีประชุมและเข้าสั่งการภายในพรรค ซึ่งไม่ได้มีเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น พรรคเพื่อไทยไม่ได้กังวลใจ และขอยืนยันว่าไม่เคยทำอะไรที่เป็นสิ่งผิดกฎหมายเลย และสิ่งที่ดำเนินการอยู่ก็ตรวจสอบได้ ดังนั้นไม่เคยกังวลว่าจะถูกยุบพรรคหรือไม่มีความปั่นป่วนอะไร แต่หากดำเนินการอะไรที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ถูกต้องผู้กระทำก็ต้องรับผิดชอบเอง

“ดังนั้นเราพร้อมยืนอยู่ให้สาธารณชนรับรู้ สิ่งที่เราทำในวันนี้ยังอยู่ในกรอบของกฎหมาย เราถูกวิจารณ์ด้วยซ้ำไปว่า กลัวกฎหมายมากจนเกินไป ไม่ทำอะไรเหมือนที่หลายคนเขาไปทำกัน วันนี้บางพรรคการเมืองก็ถูกกล่าวหาว่าใช้กระบวนการไปกระทำการหาเสียง จริงๆเรามีความเห็นว่า คสช. และผู้ที่เกี่ยวข้องควรปลดล็อกให้มีการทำกิจกรรมได้แล้ว เพราะสถานการณ์ในบ้านเมืองยังไม่มีเหตุการณ์อะไรน่ากังวลถึงขั้นวุ่นวาย ขณะนี้ทุกอย่างกำลังดำเนินการไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีและเป็นเรื่องปกติที่ควรกระทำโดยเร็วที่สุด เพราะมันคือหนทางที่สร้างความเชื่อมั่นให้ประเทศ และทำให้ประเทศมีทางออก ดังนั้นถ้าจะทำให้กระบวนการนี้เป็นกระบวนการปกติ ก็ต้องเปิดให้ทุกพรรคการเมืองกระทำได้ทุกอย่าง พรรคเพื่อไทยพยายามชี้ให้เห็นว่า ควรเปิดให้กว้างขวางขึ้น ทำความเข้าใจและชี้แจงประชาชน ซึ่งในระบบประชาธิปไตยทั่วไปพรรคการเมืองทุกพรรคพูดคุยทำความเข้าใจกับประชาชน หรือม่ีความเข้าใจว่าหาเสียง เป็นเรื่องที่ควรทำในการเลือกตั้งตามปกติไม่ได้ห้ามให้พรรคการเมืองเรียกร้องและแสวงหาความนิยมจากประชาชน เพราะเขาไปดำเนินการ 6 โมงเย็นของวันสุดท้ายก่อนการหย่อนบัตรที่ให้ยุติการหาเสียง” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลานี้สิ่งที่คสช.กำลังทำ คือการย้อนสิ่งที่ปกติ ย้อนสิ่งที่เคยทำ ส่วนตัวไม่เคยติดใจพรรคการเมืองที่ออกมากระทำการใดๆตอนนี้ เพราะเป็นสิ่งที่ทำได้ตามความเป็นจริง ควรไปพบพี่น้องประชาชนได้ เพื่อให้รับทราบนโยบายของพรรคให้มากที่สุด วันนี้คุณได้สร้างกฎหมายที่ผิดปกติ กฎหมายที่ปิดกั้นประชาชนที่จะแสวงหาทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของเขา ซึ่งปัญหาอยู่ที่คสช. กลัว สถานการณ์ต่างๆมากเกินไป หรือคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำจะเป็นการสืบทอดอำนาจ ซึ่งท่านต้องเคลียร์เรื่องนี้ ให้ประชาชนเข้าใจและรู้สึกสบายใจ ท่านควรจะทำให้สาธารณชนเกิดความรู้สึกว่าประเทศไทยมีความยุติธรรมทุกฝ่ายคิดต่อกับพี่น้องประชาชนได้ ทำให้ประเทศเดินหน้าไปตามทิศทางที่เหมาะสมได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image