มีหนังสือเล่มหนึ่งซึ่งสำนักพิมพ์มติชนเพิ่งพิมพ์ออกมาใหม่ในเดือนนี้ชื่อว่า “เลือด
สีน้ำเงิน ซ้ายไม่จริง ขวาไม่แท้ และประชาธิปไตยในอุดมคติ” ของ ปฐมาวดี วิเชียรนิตย์
ตีแผ่ตั้งแต่ตัวละครในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์จนถึงยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง ให้เห็นภูมิหลัง ความคิด ชีวิตจริง และชะตากรรมของกลุ่มบุคคลที่ได้ชื่อว่า “เลือดสีน้ำเงิน”
เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ที่สนุกทุกตัวอักษร !
เป็นประวัติศาสตร์การเมืองที่มากด้วยความหมายสำหรับคนรุ่นหลังตั้งแต่ “ไม้ใหญ่” จนถึง “เส้นหญ้า”
ดังตัวอย่างเรื่อง “คำโกหกทางการเมือง”!
สอ เสถบุตร ได้บันทึกคำพูดของ จอมพล ป. พิบูลสงคราม และนำไปตีพิมพ์ลงในหนังสือพิมพ์ศรีกรุง วันที่ 11 พฤศจิกายน 2490 ว่า
“…ผมสัญญาว่าจะไม่ยอมรับเป็นนายกรัฐมนตรีหรือตำแหน่งการเมืองใดๆ เมื่อไม่มีตำแหน่งเหล่านี้ ผมจะเผด็จการได้อย่างไร นอกจากนั้น ผมไม่คิดจะตั้งพรรคการเมืองพรรคหนึ่งพรรคใดและยึดพรรคนั้นเป็นเครื่องมือหาอำนาจในทางการเมือง ผมจะไม่สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรอย่างแน่นอน ผมมอบอำนาจในทางการเมืองทุกอย่างให้นายควง เพียงแต่พูดด้วยปากว่า ผมเป็นนักประชาธิปไตยแท้คนหนึ่ง คุณคงไม่เชื่อ คอยดูไปก็แล้วกัน…”
ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น “ควง อภัยวงศ์” ที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะรัฐประหารก็ถูกปืนจี้ให้ออกในวันที่ 6 เมษายน 2491
สำหรับการเมือง “ความไม่แน่นอน” คือ ความแน่นอน
“ป.พิบูลสงคราม” กลับมาครองอำนาจจวบจน พ.ศ.2500
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้รัฐประหารที่เพิ่งจะประกาศว่า “ผมสนใจการเมือง” ในขณะที่บอกว่า ต้นปีหน้าจะมีการเลือกตั้ง
สถานการณ์บีบคั้นกดดันให้ “พล.อ.ประยุทธ์” ต้องแสดงออกให้ชัด ว่าเมื่อสนใจแล้วจะยังไงต่อ
ยามนี้ ท่วงท่าวาจาสุภาพอ่อนโยนผิดไป มีความอดทนอดกลั้นสูงขึ้น ไม่เกรี้ยวกราดสาดอารมณ์ร้ายเหมือนที่ผ่านมา
วันนี้ “พล.อ.ประยุทธ์” ถึงกับเปิดเพจส่วนตัวในสื่อโซเชียลฯ พร้อมประกาศจะปรับตัว ทำใจให้กว้างขึ้น รับได้ทั้งก้อนหิน และดอกไม้
หากแต่…เมื่อถูกถามเรื่องการสืบทอดอำนาจ
“พล.อ.ประยุทธ์” บอกว่า การสืบทอดอำนาจ หมายความว่า มีการใช้กลไกเพื่อสืบทอดอำนาจ ไม่รู้จะสืบทอดไปทำไม
คอยดูต่อไปก็แล้วกัน !?!!
