ไม่เพียงแต่การประชุมใหญ่ พรรคเพื่อไทย ในวันที่ 28 ตุลาคมจะมีความหมายเป็นอย่างสูง หากการประชุมใหญ่ พรรคชาติไทยพัฒนา ในวันที่ 26 ตุลาคมก็สำคัญ
สำคัญเพราะการขยับเข้ามาของ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ จากนครปฐม
สำคัญถึงขนาดก่อให้เกิด “บิ๊ก เซอร์ไพรส์”
นั่นก็คือ ข่าวการจะผลักดันให้ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรค
ขณะที่ นายประภัตร โพธสุธน เป็น เลขาธิการพรรค
นี่จึงอาจเป็นตัวเลือกใหม่เพื่อต้อนรับการเข้ามาของตระกูลสะสมทรัพย์ในพรรคชาติไทยพัฒนา
ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ “ใหม่” ในทางการเมือง
ยิ่งหากศึกษากระบวนท่าพรรคชาติไทยพัฒนาผ่านคำแถลงของผู้ อำนวยการพรรค นายนิกร จำนง
“เราอาจเป็นเหมือนเต่า เดินช้าแต่เราเดินไม่หยุด”
หากเทียบกับ พรรคประชาธิปัตย์ อาจมากด้วยสีสัน ยิ่งหากนำไปวางเรียงเคียงข้างกับ พรรคภูมิใจไทย รูปลักษณ์ พรรคชาติไทยพัฒนา อาจต้วมเตี้ยม
“แต่ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังคงมีอยู่ สำทับกับท่าทีของกองทัพด้วย จึงทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวล แต่ความกังวลนี้กลับเป็นประ โยชน์ต่อเรา เพราะพรรคชาติไทยพัฒนาไม่ทะเลาะกับใครเพื่อชิงที่ 1 อยู่แล้ว เป้าหมายของพรรคเป็นการเมืองแบบเพียงพอที่ 30 ที่นั่งเท่านั้น”
น้ำเสียงของ พรรคชาติไทยพัฒนา ชวนให้นึกถึงน้ำเสียงของ พรรคประชาชาติ ซึ่งตั้งเป้าอยู่ที่ 30-40
นี่ย่อมเป็นผลสะเทือนจากการตัดสินใจของ “สะสมทรัพย์”
ถามว่าทำไมคนในตระกูล “สะสมทรัพย์” จึงไม่เข้าไปอยู่กับ พรรคพลังประชารัฐ
ทำไมจึงเลือก พรรคชาติไทยพัฒนา
เรื่องนี้ต้องศึกษารายละเอียดจากมติของที่ประชุมในวันที่ 26 ตุลาคม จะได้คำตอบที่ใกล้เคียงกับสภาพความเป็นจริงมากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
นั่นก็คือ คำตอบจาก น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา