นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกรณีที่ครอบครัวสะสมทรัพย์ยกทีมอดีต ส.ส.นครปฐมเข้า ชทพ.ว่า ชทพ.อาจจะเป็นเหมือนเต่าเดินช้า แต่เราเดินไม่หยุด ใช้ความเร็วเท่าเดิมเคลื่อนตัวไปยังเป้าหมายที่พรรคประสงค์ไว้ โดยขณะนี้ทุกอย่างยังถือว่า เดินไปตามกรอบที่เราตั้งเป้าหมายไว้ทุกประการ ที่ผ่านมา ชทพ.อาจจะไม่วูบวาบมากเหมือนกับพรรคอื่น แต่ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังคงมีอยู่ สำทับกับท่าทีของกองทัพด้วย จึงทำให้หลายฝ่ายเป็นกังวล
แต่ความกังวลนี้กลับเป็นประโยชน์ต่อเรา เพราะ ชทพ.ไม่ทะเลาะกับใครเพื่อชิงที่ 1 อยู่แล้ว เป้าหมายของพรรคเป็นการเมืองแบบเพียงพอที่ 30 ที่นั่งเท่านั้น จึงทำให้เราเป็นสถานที่เย็นๆ โดยต้อนรับให้มาหลบร้อนกันได้ จึงทำให้คนที่ออกไปก็มีกลับมา ขณะที่คนใหม่ก็มีติดต่อเข้ามาอีกเช่นกัน นอกจากนี้ มีอดีต ส.ส.นครปฐม ที่นำโดยครอบครัวสะสมทรัพย์แล้ว ในการประชุมใหญ่วันที่ 26 ตุลาคมนี้ ยังจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์มาเปิดตัวกับ ชทพ.อีกแน่นอน
นายนิกรกล่าวต่อว่า สำหรับภายในก็จะมีการจัดทัพกันใหม่ โดยจะเป็นพรรคขนาดกลางที่มีครบเครื่อง ขยายฐานของสัดส่วนกรรมการบริหารพรรคออกไป จากเดิมที่มี 15 คน จะขยายโควต้าสูงสุดให้มีถึง 29 คน วางคนหลายรุ่นให้เข้ามาช่วยกันทำงานในทุกๆ ด้าน ตนในฐานะคนรุ่นเก่าที่อยู่กับพรรคมากว่า 30 ปี คนรุ่นใหม่ของ ชทพ.แต่ละคนถือว่า ขยัน มีความปรารถนาที่ดี โดยการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคในการประชุมใหญ่วันที่ 26 ตุลาคมนี้ คนรุ่นใหม่เหล่านี้จะขึ้นมาเป็นหัวหอก ภายใต้การดูแลของสมาชิกที่มีประสบการณ์
รายงานข่าวจากพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) แจ้งว่า การประชุมพรรค ชทพ.ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ นอกจากจะเปิดตัวอดีต ส.ส.นครปฐม หลายคน ที่นำโดยนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และอดีต ส.ส.นครปฐม พรรคเพื่อไทย (พท.) ที่เข้าเป็นสมาชิกกพรรคแล้ว ประเด็นที่ถือเป็นบิ๊กเซอร์ไพรส์ใหญ่คือ การที่ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ บุตรสาวนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี จะขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค ชทพ.
ขณะที่นายประภัตร โพธสุธน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค หลังจากที่มีการพิจารณาว่าผู้ที่มาดำรงตำแหน่งสำคัญในขณะนี้ ควรต้องเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคน ทั้ง 2 รุ่น คือบุคลากรที่มีประสบการณ์ทั้งที่อยู่ในพรรคเดิมและที่จะเข้ามาทำงานร่วมกันใหม่กับคนรุ่นใหม่ในพรรคได้
