“ส่วนลึก” สำคัญกว่าภายนอก โบราณจึงบอก “ดวงตา” เป็นหน้าต่างของ “หัวใจ” ถึงจะปากหวานพูดดีหรือแสดงท่วงท่าน่าดูชมอย่างไร แต่สิ่งที่เห็นก็เป็นเพียง “ภาพภายนอก”
คนกะล่อน คนหลอกคนจึงแยบยลซับซ้อน สับสน ชวนให้สงสัย “คน” เป็นอันตราย “คน” ได้จริงๆ ยิ่งกว่าผี
จะฟังคนพูดหรือดูคนทำอะไร จึงต้องสังเกต ใคร่ครวญ กลั่นกรอง ตรวจสอบด้วยหลักกาลามสูตรดีที่สุด
“เดินคารวะแผ่นดิน” เป็นเพียงสำนวนโวหาร ไม่ต่างจากถ้อยคำที่ใช้ในการโฆษณาสินค้า อวดสรรพคุณ
กล่าวโดยเนื้อแท้แล้ว “เดินคารวะแผ่นดิน” เป็นงานอีเวนต์อย่างหนึ่ง เป็นการเดินรณรงค์ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่มี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นแกนนำคนสำคัญ ซึ่งผลที่ได้คือ 1.ได้เดิน 2.ได้ปราศรัย แนะนำตัวนายสุเทพและตัวหัวหน้าพรรค 3.ได้หาความนิยมให้ตัวเองและพรรครวมพลังประชาชาติไทย และ 4.ได้เป็นข่าวต่อเนื่องไปหลายวัน เพราะจะลงไปเดินโฉบเฉี่ยวโชว์ตัวทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด
ส่วนที่ว่า เดินเพื่อรับสมัครสมาชิกนั้น ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน แค่อ้าง หรือบังหน้า เหมือน “โฆษณาแฝง”
แต่ทำไม “คสช.” จึงอนุญาตให้นายสุเทพกับพรรคพวกรวมพลังประชาชาติไทย ทำได้
หรือว่า “คสช.” ปลดล็อกแล้ว แต่พรรคการเมืองอื่นๆ ไม่เคลื่อนไหวกระฉับกระเฉงกันเอง
ถ้าเช่นนั้น ในเวลาอันกระชั้นชิดนี้ ขอให้พรรคการเมืองทั้งหลายจงพร้อมใจกันลุกขึ้นมา “เดิน” ด้วยกันทุกฝ่าย
เดินไปในทุกพื้นที่ ทุกเขตเลือกตั้ง เพื่อแนะนำตัวหัวหน้าพรรค แกนนำคนสำคัญของพรรค พร้อมประกาศกับประชาชนในที่นั้นๆ ว่ามารับสมัครสมาชิก มาหาคนที่มีอุดมการณ์เดียวกันร่วมทางเดินไปด้วยกัน
ถ้าพรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่ จะทำบ้างก็ให้ขออนุญาตไปที่ “คสช.” อย่ารอช้า
แต่เปลี่ยนสำนวนเสียใหม่
อย่าไปใช้ “เดินคารวะแผ่นดิน” ที่ดูจะเป็นนามธรรม ประเดี๋ยวจะเข้าใจไขว้เขวไปเป็นเรื่องที่ดิน เรื่องโฉนด หรือเรื่อง ส.ป.ก.
ว่ากันตรงๆ ดีกว่า
“เดินมาคารวะประชาชน” !
เดินมาหาเจ้าของอำนาจ เดินมาแนะนำตัวเอง มาบอกกล่าวเล่าขานนโยบายและชักชวนเป็นสมาชิกพรรค
เดินมาเพื่อยืนยัน “ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย”
ไม่ใช่มาปลุกม็อบ “ล้มเลือกตั้ง” !?!!
