ชทพ.จัดประชุมใหญ่ เลือก “กัญจนา” นั่งแม่ทัพชทพ.ใหม่สู้เลือกตั้ง ลั่น ทำเต็มที่ ไม่ให้เสียทีที่เป็นลูกมังกรการเมือง
เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 26 ตุลาคม ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จะมีการประชุมใหญ่ครั้งที่ 1 / 2561 เพื่อพิจารณาการแก้ไขข้อบังคับ อุดมการณ์ และนโยบายพรรค จะมีการประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2561 เพื่อพิจารณาการแก้ไขข้อบังคับ อุดมการณ์ นโยบายพรรค และ การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยมีแกนนำและอดีต ส.ส.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง นำโดย นายธีระ วงศ์สมุทร หัวหน้าพรรค ชทพ. นายนิกร จำนง ผู้อำนวยการชทพ. น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา อดีตรองหัวหน้า ชทพ. นายประภัตร โพธสุธน อดีตเลขาธิการพรรคชาติไทย นายจองชัย เที่ยงธรรม อดีต ส.ว.สุพรรณบุรี นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง อดีตกรรมการบริหาร ชทพ. นายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด นายวราวุธ ศิลปอาชา นายภราดร ปริศนานันทกุล นายเสมอกัน เที่ยงธรรม อดีต ส.ส.สุพรรณบุรี นายศักดิ์ชัย จินตะเวช อดีต ส.ส.อุบลราชธานี เป็นต้น
ทั้งนี้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าพรรคมาตุภูมิและอดีตประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ได้พาอดีตสมาชิกพรรคมาตุภูมิ 15 คน มาร่วมสมัครเป็นสมาชิกพรรค และยังมีอดีต ส.ส.ได้เดินทางมาเปิดตัวกับ ชทพ.ในการประชุมครั้งนี้ด้วย อาทิ นางลักษณา แก้วกล้าหาญ ภรรยานายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ อดีต ส.ส.ขอนแก่น นายอนุชา สะสมทรัพย์ นายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร อดีต ส.ส.นครปฐม นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร เป็นต้น
พล.อ.สนธิให้สัมภาษณ์ว่า ส่วนตัวยังไม่ได้สมัครเป็นสมาชิก ชทพ. เนื่องจากรอเกี่ยวกับกระบวนการพรรคการเมืองให้ชัดเจนก่อน โดยอยู่ระหว่างรอเรียกประชุมเพื่อยื่น กกต.ให้พรรคมาตุภูมิสิ้นสภาพความเป็นพรรค โดยตนได้นำอดีตสมาชิกมาตุภูมิ จำนวน 15 คนมาร่วมงานกับ ชทพ.ก่อน เพื่อเติมเต็มพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และสงขลาให้ โดยจะส่งลง 3 จังหวัดชายแดนใต้ทุกเขตเลือกตั้ง ทั้งนี้ ส่วนตัวชื่นชอบในนโยบายในการสร้างความปรองดองและความเป็นกลาง ชทพ.และสอดคล้องกับความรู้สึกส่วนตัวที่ต้องการร่วมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในชาติ จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมงานกับ ชทพ.
จากนั้น เป็นวาระการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ โดยตำแหน่งหัวหน้าพรรค ที่ประชุมมีการเสนอชื่อจำนวน 2 คน คือ นายธีระ วงศ์สมุทร กับ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา แต่เนื่องด้วยนายธีระ ได้ขอถอนตัว โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า 5 ปี 7 เดือน 7 วันของการขึ้นเป็นหัวหน้า หลังจากการถึงแก่อนิจกรรมของนายชุมพล ศิลปอาชา แม้ตลอดการทำหน้าที่ จะเป็นงานด้านธุรการเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีข้อจำกัด ผ่านการเลือกตั้ง 1 ครั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่ศาลสั่งให้เป็นโมฆะ จึงถือว่า ไม่ผ่านการเลือกตั้งเลย แต่เราก็ทำงาน แสดงฝีมือตามโอกาสที่เอื้ออำนวย คนเรามีมือ 5 นิ้ว จะเห็นว่า แต่ละนิ้วร่วมกันทำงาน ตนคิดว่านิ้วชี้เป็นพระเอก ส่วนนิ้วอื่นช่วยประคองให้นิ้วชี้ได้ทำหน้าที่ ฉันใดฉันนั้น ในการเลือกหัวหน้า จึงอย่าคำนึงถึงผู้อาวุโส หรือคนรุ่นหนุ่มสาว หรืออะไรทั้งนั้น ต้องดูจากความกล้า มีความสามารถตามสถานการณ์ หนุ่มสาว หรือผู้อาวุโส ขอให้เป็นนิ้วอื่นๆ มาช่วยประคองให้พรรคของเราไปสู่เป้าหมายตามที่กำหนดไว้
“ชีวิตทำงานของผมโตมาจากราชการ เข้าสู่การเมือง จากนายบรรหาร ศิลปอาชา ผู้มีพระคุณ ที่สนับสนุนทั้งชีวิตราชการและการเมือง ทั้งชีวิตผมไม่สามารถทดแทนพระคุณท่านได้ จึงขอถอนตัวจากการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรค เพราะตนมองว่าการเลือกผู้นำพรรค อยากเห็นมองไปในทิศทางเดียวกัน และตนมองว่าคนที่เหมาะสมเป็นหัวหน้าพรรคคนต่อไปคือ น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา” นายธีระกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนตำแหน่งเลขาธิการพรรค ที่ประชุมมีการเสนอชื่อนายประภัตร โพธสุธน เพียงคนเดียวเท่านั้น ส่วนตำแหน่งอื่นในกรรมการบริหารพรรค ที่ถูกเสนอชื่อ อาทิ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ อดีต ส.ส.ร้อยเอ็ด, นายอนุชา สะสมทรัพย์ อดีต ส.ส.นครปฐม, นายวิจิตร พรพฤฒิพันธุ์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์, นายสัมพันธ์ แป้นพันธุ์ อดีต ส.ส., นายยุทธพล อังกินันทน์ อดีต ส.ส. ขณะที่ตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค มีผู้ถูกเสนอชื่อ 3 คน ได้แก่ นายนิติวัฒน์ จันทร์สว่าง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายพันธุ์เทพ สุรีสถิร อดีตเลขาธิการพรรคชาติไทย, น.ส.ทัศลักษณ์ ปัตตาพงศ์ภัช หลานนายสวัสดิ์ เป็นต้น ทั้งนี้ ภายหลังจากการนับคะแนนของสมาชิกที่ได้ลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง ผลปรากฏว่า น.ส.กัญจนา ได้รับความเห็นชอบ 345 คะแนน ขณะที่ นายประภัตร ได้รับความเห็นชอบ 342 คะแนน ส่วนตำแหน่งอื่นๆก็ได้รับเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งทั้งหมด
ต่อมา น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้า ชทพ. ขึ้นเวทีรับธงประจำพรรค ชทพ.จากนายธีระ ก่อนกล่าวเปิดใจกับสมาชิกพรรค ตอนหนึ่งว่า เหตุผลที่ตนได้รับเลือกเป็นหัวหน้า ชทพ. เป็นเพราะสมาชิกเห็นว่า ตนจะเป็นสะพานเชื่อมระหว่างคนรุ่นอาวุโส และคนรุ่นใหม่ให้ทำงานร่วมกันได้ โดยในการทำหน้าที่ของตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อไม่เสียชื่อของอดีตหัวหน้าพรรคทุกคนที่ทำหน้าที่มาก่อนหน้านี้ ซึ่งเหตุการณ์วันนี้ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เมื่อ 23 ปีที่ผ่านมา ตอนนั้นเลือกตั้งวันที่ 3 มิถุนายน 2538 ที่นายบรรหาร ทาบทามให้ลงเลือกตั้ง ส.ส.สุพรรณบุรี เพราะมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้น ตนมีเวลาตัดสินใจเพียงวันเดียวเท่านั้น เพราะต้องไปลงพื้นที่หาเสียงแล้ว โดยเหตุการณ์นี้ตนก็มีเวลาตัดสินใจน้อยมากเช่นกัน แต่มีความต่างกันคือ วันนี้ไม่มีพ่อแล้ว และตนมีอายุเพิ่มขึ้นอีก 23 ปี แต่ที่ความเหมือนกันคือไม่มีเวลาให้เอื้อตัดสินใจ แต่เมื่อตัดสินใจแล้ว มุ่งมั่นตั้งใจทุ่มเท ทำงานเต็มที่ต่อความรับผิดชอบและภาระที่จะตามมาหลังจากนี้
ทั้งนี้ น.ส.กัญจนายังกล่าวต้อนรับอดีต ส.ส.ที่จะร่วมประชุมใหญ่กับพรรค ทั้งนายอนุชา สะสมทรัพย์ และนายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร อดีต ส.ส.นครปฐม พรรคเพื่อไทย, อดีต ส.ส.จากพื้นที่ จ.สมุทรสาคร นายอนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์, นายอภิชาติ โพธิ์ถนอม และนายปัญญา ชวนบุญ, นอกจากนั้นยังมี พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตหัวหน้าพรรคมาตุภูมิที่จะมาร่วมทำงานกับพรรค เพื่อดูแลจังหวัดภาคใต้ เพื่อทำให้เห็นว่า พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่พรรคเฉพาะภาคกลาง หรืออีสานเท่านั้น แต่การส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งนั้นต้องขอเวลาพิจารณาอีกครั้ง ซึ่งยืนยันว่าผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคนั้น จะต้องเป็นผู้ที่มีประสิทธิภาพสามารถรับใช้ประชาชน แก้ปัญหาให้ประชาชนได้อย่างเต็มกำลังและความสามารถ
“ที่ผ่านมาพ่อบรรหารเคยกล่าวไว้ว่ามีศัตรู 1 คนก็มากไป มีมิตร 100 คนก็น้อยไป ดังนั้น สิ่งที่ท่านทำคือ ไม่เคยถือใครเป็นศัตรู และเป็นมิตรได้กับทุกๆ คน ดังนั้น สิ่งที่เรา 2 คน พี่น้องมี และเชื่อว่าการร่วมแรงและร่วมใจของสมาชิกทุกรุ่น เชื่อมั่นว่าจะพาพรรคลงสู่สนามการเลือกตั้งอย่างองอาจ เข้มแข็ง มีคนกล่าวว่า พ่อบรรหาร คือ มังกรการเมือง แต่ดิฉันไม่บังอาจเทียบเคียง แต่ในฐานะที่ดิฉันเป็นลูกพ่อ ยืนยันจะทำหน้าที่อย่างเต็มสติกำลังเพื่อไม่เสียทีที่ได้เกิดเป็นลูกมังกรการเมือง” น.ส.กัญจนากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมยังได้เลือกคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรค ที่มีเสนอชื่อ ทั้งหมด 11 คน ได้แก่ นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค, นายสุรชัย ทิณเกิด, นายพิสิษฐ์ พิทยฐากุลเจริญ, นายเสน่ห์ ขาวโต, นายสรชัด สุจิตต์, นายดำรงค์ นิทัศกาญจนานนท์ , นายประสงค์ ยนตร์ตัน, นายสมยศ หนูหนอง,นายนิกร จำนง, น.ส.สุพาณี เวชศาสตร์ และ นายจักรี ทิณเกิด
