พท.จ่อเลือก หน.นำ “ทัพหลวง” ซีกประชาธิปไตย พล.ท.ภราดร ชี้เป้าหมายที่ 300 เสียงการันตีดึง “ชทพ.-ภท.” ร่วม รบ.
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการวางตัวนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า ก็ยังถือว่าเป็นกระแสข่าว ต้องรอความชัดเจน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรายชื่อที่ออกมาทั้งหมดสะท้อนว่าเพื่อไทยยังมีบุคลากรที่มีศักยภาพเพียงพอต่อการขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคได้ ซึ่งจะเป็นข้อยุติได้ก็จะต้องเป็นไปตามกติกาผ่านระเบียบต่างๆ โดยสมาชิกจะต้องมาเห็นชอบร่วมกันในการประชุมใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้
พล.ท.ภราดรกล่าวต่อว่า ต้องยอมรับว่าพรรคไทยรักษาชาติ เกิดขึ้นแล้วจริงๆ ถือว่าเป็นหนึ่งในพรรคแนวรวมซีกประชาธิปไตย เช่นเดียวกับพรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นทัพหลวงแกนหลักของซีกประชาธิปไตย เพราะตามข้อเท็จจริง คนของซีกประชาธิปไตยถือว่ามีมาก เมื่อไม่ลงตัวในการจัดการก็จะต้องเกิดการแตกตัว ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติเพื่อแยกกันไปเสนอตัวประชาชนใช้เอกสิทธิ์ตัดสินใจว่าจะเลือกใคร แต่เมื่อถึงปลายทาง เชื่อว่าซีกประชาธิปไตยจะมาบรรจบกันได้ เช่นเดียวกับกรณีที่เกิดอุบัติเหตุระหว่างทางก็ยังมีช่องทางรองรับไว้ให้สมาชิกซีกประชาธิปไตยเลือกกระจายตัวออกไปได้
พล.ท.ภราดรกล่าวต่อว่า สำหรับเป้าหมายสูงสุดเของซีกประชาธิปไตยในขณะนี้ รวมไปถึงพรรคประชาชาติ และพรรคอนาคตใหม่ ที่มีจุดยืนชัดเจนว่าไม่เอาเผด็จการ เมื่อผนวกกันแล้ว ยังเชื่อว่าจะได้เสียงถึง 300 เสียงขึ้นไป เพื่อเป็นฐานเพียงพอที่จะทำให้พรรคขนาดกลาง ทั้งพรรคภูมิใจไทย ทั้งพรรคชาติไทยพัฒนา ที่เป็นตัวแปรจัดตั้งรัฐบาลให้มาเข้าร่วมกับซีกประชาธิปไตย เพราะหากประชาชนยืนยันให้ปีกประชาธิปไตยเป็นรัฐบาล เชื่อว่าพรรคขนาดกลางก็จะมองทิศทางที่พี่น้องให้น้ำหนักอย่างแน่นอน เพราะถือว่ามีเหตุผลที่จะตอบต่อสาธารณะได้ ดังนั้น จะเห็นได้ว่า วันนี้พรรคขนาดกลางเหล่านี้ได้ปรับทัพ เลือกทีมบริหารที่มีความสัมพันธ์กันของพรรคการเมืองในอดีตขึ้นนำทัพเพื่อรองรับสถานการณ์ของซีกประชาธิปไตยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตแล้วนั่นเอง
