สภาพที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประสบระหว่าง”เดินคารวะแผ่นดิน” ไม่ว่าจะเป็นที่ปากคลองตลาด ไม่ว่าจะเป็นที่เยาวราช ไม่ว่าจะเป็นที่สีลม
นอกเหนือจากที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ จะรับรู้โดยตนในฐานะซึ่งเป็น”ศิษย์สวนโมกข์”แล้ว
ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ตอบได้ดีที่สุด
ยิ่งกว่านั้น นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ หากร่วมอยู่ในขบวนปฏิบัติการ “เดินคารวะ” ก็อาจจะเป็นอีกคนหนึ่งที่จะสามารถให้คำอรรถาธิบายได้
เป็นไปได้หรือไม่ว่าอาจเป็นการก่อกวนจาก “ฝ่ายตรงข้าม” ในทางการเมือง
และแท้จริงแล้ว “ฝ่ายตรงข้าม” คือใคร
ไม่ว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ไม่ว่า นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ต้องยอมรับว่า”พื้นที่” ซึ่งพรรครวม พลังประชาชาติไทยเลือก “เดินคารวะ” มีเหตุผล
เห็นได้จาก “ปากคลองตลาด” เห็นได้จาก “เยาวราช” เห็นได้จาก “สีลม”
แต่ละพื้นที่มีรากฐานของ “มวลมหาประชาชน”
เพราะว่าเป้าหมายของปฏิบัติการ “เดินคารวะแผ่นดิน” ก็เพื่อจุดประกายให้รำลึกถึงสถานการณ์ “ชัตดาวน์” ห้วงก่อนรัฐประหาร เมื่อเดือนพฤษภาคม 2535
แล้วที่ปากคลองตลาดกลับพบชาวบ้านยืนกอดอกเฉยขณะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ พนมมือไหว้
ที่เยาวราชชาวบ้านถามว่ามาเดินทำไม
ที่สีลมนอกจากความเฉยชาจากแฟนเก่าที่เคยร่วมเป่านกหวีดแล้วยังมีชายคนหนึ่งหยุดถามแล้วโพล่งออกมาดังๆว่า
“โกหกแล้ว”
จากเดือนมกราคม 2557 มายังเดือนตุลาคม 2561 ท่าทีของชาวบ้านในกทม.จำนวนหนึ่งอาจเหมือนเดิม แต่จำนวนหนึ่งอาจไม่เหมือนเดิม
เป็นการเสี้ยมจาก”ฝ่ายตรงกันข้าม”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครมิได้เป็นพื้นที่ ของพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากยังเป็นพื้นที่ของพรรคประชาธิปัตย์
คำถามคือความสัมพันธ์ระหว่าง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ กับพรรคประชาธิปัตย์ยังเหมือนเดิมหรือ
