‘สมชัย’เคลียร์’กรธ.’แล้วปมแจ้งความมือโพสต์ผิดกม.ประชามติ ปัดออฟไซด์ 4 กกต.

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 เม.ย.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แถลงว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) หลังมีข่าวว่าออกมาระบุว่ารู้สึกแปลกใจที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติเพราะมองว่าต้องทำในรูปแบบของกรรมการนั้น ตนได้รับการยืนยันจากนายอุดม ว่า ไม่ได้พูดตามที่ออกมาเป็นข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้การแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษนั้นสามารถแยกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มแรกการคัดค้านการออกเสียงประชามติเนื่องจากมีการทุจริต ร้องเรียนกรรมการไม่เป็นกลาง มีการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้จัดการออกเสียงใหม่ในบางพื้นที่ ซึ่งจะต้องเข้าสู่ที่ประชุม กกต. ส่วนเรื่องทำผิดอาญาไม่จำเป็นต้องเข้าสู่ที่ประชุมกกต. ดังนั้นการที่ตนไปแจ้งความจึงไม่ผิดกฎหมายตามที่มีการกล่าวหาและประชาชนทุกคนที่พบเห็นการกระทำผิดกฎหมายก็สามารถใช้สิทธิดำเนินคดีได้ด้วยตัวเองเช่นเดียวกัน ส่วนที่มีข่าวว่าตนถูกกกต.คนอื่นตำหนิว่าออฟไซด์นั้น ก็ไม่เป็นความจริง เพราะไม่มีการพูดเรื่องนี้ โดยยืนยันว่ากกต.ทุกคนเข้าใจตรงกัน อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมกกต.ในวันที่ 29 เมษายน นายบุญส่ง น้อยโสภณ กรรมการกกต. จะได้ชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการร้องเรียนเกี่ยวกับการกระทำความผิดผ่าน กกต.ว่าสามารถทำในช่องทางใดได้บ้าง นอกจากนี้ในวันเดียวกันจะมีการพิจารณาร่างประกาศกกต.เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่กำหนดว่าสิ่งใดสามารถทำได้หรือไม่ได้เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ชัดเจนต่อสังคม

“อยากให้เปลี่ยนเป็นสังคมที่ใช้เหตุผล และยืนยันว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติ ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าทหารจังหวัดนครสวรรค์แจกใบปลิวรณรงค์ให้ประชาชนรับร่างรัฐธรรมนูญนั้น จะต้องตรวจสอบก่อนโดยจะรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ที่ประชุมพิจารณาว่าเป็นการกระทำผิดหรือไม่ เนื่องจากไม่ใช่กรณีที่พบความผิดเองแต่เป็นการนำเสนอโดยสื่อมวลชน ทั้งนี้ กฎหมายระบุว่าเจ้าหน้าที่ไม่สามารถรณรงค์ให้รับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญได้ แม้จะออกความเห็นในนามส่วนตัวก็ต้องระมัดระวังเรื่องตำแหน่งหน้าที่ที่รับผิดชอบด้วย ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องระมัดระวังด้วยโดยเฉพาะคนที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

เมื่อถามว่า กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ไม่เห็นด้วยที่จะให้องค์กรต่างชาติเข้ามาสังเกตการณ์การลงประชามติ ว่าจะเป็นการชี้นำหรือกดดัน กกต.หรือไม่ นายสมชัย กล่าวว่า กรณีนี้ต้องนำเข้าที่ประชุมเพื่อตัดสินใจร่วมกัน อย่างไรก็ตาม หากต่างชาติเข้ามาดูก็ถือว่าเป็นเรื่องโปร่งใส เรียนรู้ระบบงาน ไม่ถือเป็นการแทรกแซง แต่เป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าขณะนี้มีองค์กรสังเกตการณ์นานาชาติได้ทำหนังสือเชิญนายศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต.ไปบรรยายเกี่ยวกับการทำประชามติในวันที่ 4 พฤษภาคม กกต.จะนำประเด็นนี้ไปหารือในการประชุมวันที่ 29 เมษายนเช่นกัน