เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 31 ตุลาคม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และคณะลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ โดยได้ไปกราบไหว้พระมงคลมิ่งเมืองที่ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวอำนาจเจริญ และได้ร่วมถ่ายภาพกับประชาชนจำนวนมาก จากนั้นได้มาที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชาธิปัตย์ ที่บ้านหนองคลอง อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ซึ่งมีนายสุทัศน์ เงินหมื่น อดีต รมว.ยุติธรรม และนายอภิวัฒน์ เงินหมื่น อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 2 นายไพศาล จันทวารา อดีต ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 1 และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ เขต 1 ได้แก่บุตรสาวนายไพศาลนั่นเองคือ น.ส.ธนชาภา จันทวารา ให้การต้อนรับ พร้อมกับประชาชนชาวอำนาจเจริญจำนวนกว่า 1,000 คนมารับฟังการปราศรัยของนายอภิสิทธิ์ ซึ่งเดินทางมาพบกับสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และประกาศลั่นว่าตนเองพร้อมที่จะเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์หากมีการเลือกตั้ง ส.ส.ขึ้นในวันที่ 24 ก.พ. 2562 และได้รับการคัดเลือกด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้น
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายอภิสิทธิ์เกี่ยวกับมุมมองกรณี เพลง “ประเทศกูมี” ของกลุ่มวัยรุ่นที่ร้องไว้เพื่อสะท้อนสังคมให้ดีขึ้นนั้นผิดหรือไม่อย่างไร
นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คนที่เขาทำขึ้น ผลิตขึ้น เขาต้องการจะสะท้อนมุมมองในแนวความคิดเขา เขาก็ไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนก็พยายามฟังอยู่เหมือนกันว่าผิดกฎหมายตรงไหน ก็ไม่เห็นมี และเป็นสิทธิของเขาที่พึงกระทำได้ ขณะเดียวกันคนที่เขาเห็นว่าสิ่งที่เด็กๆ วัยรุ่นเหล่านี้ทำไม่ดีก็เป็นสิทธิเสรีภาพเหมือนกันที่จะวิพากษ์วิจารณ์เขา เราควรอยู่ในสังคมที่แตกต่างและยอมรับความคิดเห็นกันได้ ไม่ใช่จะจ้องจับผิดฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่เกิดประโยชน์
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า ในวันที่ 24 ก.พ.2562 นี้ควรจะให้มีการเลือกตั้ง คิดว่าคงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องยืดการเลือกตั้งออกไปอีก หากเรามีการเลือกตั้งก็จะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศไทยเรา ผมมาวันนี้ก็มาพบกับสมาชิกพรรคและเป็นการมาพบกับพี่น้องประชาชนทางอีสาน และพบว่าปัญหาที่แก้ไม่ตกก็คือปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะพี่น้องชาวเกษตรกรยังรอคอยการแก้ไขจากทางภาครัฐอยู่ และเชื่อว่าการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในวันพรุ่งนี้ตนอาจชนะได้เป็นหัวหน้าพรรค และทางพรรคจะได้รับการสนับสนุนให้เป็นรัฐบาลได้ในเวลาต่อมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นนายอภิสิทธิ์และคณะได้เดินทางไปยัง อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี ก่อนที่จะเดินทางกลับเข้ากรุงเทพมหนคร
