นิวส์รูมวิเคราะห์ : พลิกเกม “เพื่อไทย” ยุบพรรค-“คว่ำบาตร”เลือกตั้ง

หากจับนัยยะคำพูดของ “วิษณุ เครืองาม” รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า คนที่จะลงรับสมัครส.ส. จะต้องมีสภาพสมาชิกพรรค 90 วันก่อนวันเลือกตั้ง ถ้าวันเลือกตั้งคือ 24 กุมภาพันธ์ 62 จะต้องเป็นสมาชิกภายในวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้เท่านั้น เพราะไม่เช่นนี้จะลงสมัคร ส.ส.ไม่ได้

คำพูด “วิษณุ” เท่ากับเป็นแรงกดดันอดีตส.ส.ต้องรีบตัดสินใจก่อนเส้นตาย ภาวะโยกย้ายสังกัดย่อมเกิดแรงกระเพือมอีกระลอก

สำหรับพรรคพลังประชารัฐเชื่อว่าพร้อมอ้าแขนรับอดีตส.ส.เกรดเอ พร้อมเงื่อนไขพิเศษเพื่อเป็นแรงดึงดูด พร้อมส่งแรงกดดันบีบคู่แข่ง ซึ่งหนีไม่พ้นพรรคเพื่อไทยที่ถูกแรงกดดันจากปมยุบพรรค

เพราะถ้าเกมยุบพรรคเกิดหลังวันที่ 26 พ.ย.นี้ เท่ากับอดีตส.ส.ที่สมัครเข้าสังกัดสมาชิกเพื่อไทยต้องถูกตัดสิทธิสมัครส.ส.ยกแผง

Advertisement

ประเด็นนี้แกนนำพรรคเพื่อไทยมีการวิเคราะห์ถึงเกมของผู้กุมอำนาจที่อาจใช้เป็นแรงบีบให้อดีตส.ส.ย้ายซบพรรคพลังประชารัฐ  แต่เมื่อดูขั้นตอนในข้อกฎหมาย โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาคดีของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว

ถ้าเปิดดูคดียุบพรรคเก่าๆ โดยยกเอาเคส “พรรคไทยรักไทย”ที่ถูกข้อหาจ้างพรรคเล็กให้ลงสมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งกกต.ได้ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุดให้ดำเนินการตามกฎหมายส่งสำนวนคดียุบพรรคต่อศาลรัฐธรรมนูญในเดือนมิ.ย.49 คดีนี้ใช้เวลาไต่สวนเกือบ 1 ปีนำมาสู่การตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยในวันที่ 30 พ.ค.50

เช่นเดียวกับ “พรรคพลังประชาชน” ภายหลังกกต.มีมติด้วยเสียงข้างมาก 3 ใน 5 เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 51ให้ใบแดงและส่งความเห็นไปยังศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของ “ยงยุทธ ติยะไพรัช” รองหัวหน้าพรรคพลังประชาชน เนื่องจากพบว่ามีการทุจริตการเลือกตั้งที่จ.เชียงราย โดยมีนายชัยวัฒน์ ฉางข้าวคำ กำนัน ต.จันจว้า อ.แม่จัน เป็นพยานคนสำคัญกล่าวหาว่านายยงยุทธเรียกกำนัน 10 คน ในอ.แม่จัน จ.เชียงราย เดินทางไปพบที่กรุงเทพฯ ก่อนการเลือกตั้งวันที่ 23 ธ.ค.50 และเข้าพักที่โรงแรมเอสซีปาร์ค นายยงยุทธขอให้กำนันช่วยเหลือตนและน้องสาว และคนสนิทของนายยงยุทธได้มอบเงินให้กำนันคนละ 20,000 บาท นายยงยุทธได้ออกมาตอบโต้ตลอดเวลาว่าเป็นการจัดฉากถูกสร้างพยานหลักฐานเท็จ

Advertisement

จากนั้นวันที่ 8 ก.ค.51 ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง พิพากษายืนตามมติของกกต. และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของนายยงยุทธเป็นเวลา 5 ปี ขณะเดียวกัน กกต.ดำเนินการสรุปสำนวนส่งให้อัยการสูงสุดเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเสนอยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 51 ขอให้ยุบพรรคพลังประชาชน

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. 51 ให้ยุบพรรคพลังประชาชน ซึ่งใช้เวลาการพิจารณานานกว่า 10 เดือน  ดังนั้นเมื่อนำชนักปักหลังเพื่อจัดการยุบพรรคเพื่อไทย ทั้งปมฝ่าฝืนคำสั่งคสช. และ”ทักษิณ ชินวัตร”ครอบงำพรรคแล้ว กระบวนการทางกฎหมายเมื่อเข้าสู่การพิจารณาของกกต.และศาลรัฐธรรมนูญ อย่างเร็วที่สุดน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนจึงถึงที่สุด
การยุบพรรคเพื่อไทยย่อมเกิดขึ้นหลังจากการเลือกตั้ง 24ก.พ.62 อย่างแน่นอน ซึ่งเมื่อถึงสถานการณ์ในช่วงนั้น ค่อยมาว่ากันในแง่กฎหมายประเด็นการย้ายพรรคของส.ส.เพื่อไทยว่า จะไปสังกัดพรรคสำรองหรือพรรคไหน

แต่ถ้าเกิดปาฏิหาริย์ทางกฎหมายถึงขั้นว่า “เพื่อไทย” ถูกยุบพรรคก่อนวันเลือกตั้ง 24 ก.พ.62 หมายถึงต้องโดนตัดสิทธิสมัครส.ส.ยกพรรค

การต่อสู้หนทางเดียว คือ การคว่ำบาตรเลือกตั้ง เพราะในทางการเมืองผู้มีอำนาจย่อมหนีไม่พ้นข้อครหากลั่นแกล้งทางการเมือง

หากการเมืองเดินไปสู่จุดนั้น ถือเป็นหน้าที่ของผู้มีอำนาจต้องตอบคำถามประชาชนเองว่าบ้านเมืองเกิดอะไรขึ้น เชื่อว่าผลกระทบที่ตามมาอาจสาหัสสากรรจ์เกินขีดความสามารถคสช.จะกุมสภาพอยู่ได้

ดังนั้น พรรคเพื่อไทยภายใต้ “เจ๊หน่อย” คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ คือ การเดินหน้าหาเสียงในนามพรรคเพื่อไทย เพราะอดีตส.ส.ยังมั่นคง ไม่จำเป็นต้องอาศัยพรรคสำรอง เพราะวันนี้เพื่อไทยเชื่อมั่นว่าประชาชนมีคำตอบว่าจะเลือกข้างไหนระหว่าง ประชาธิปไตย หรือ เผด็จการ
แต่หากผู้กุมอำนาจใช้ “กลอุบาย” ยุบพรรคก่อนเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62 คำตอบของเพื่อไทย คือ การคว่ำบาตรเลือกตั้ง

โยนให้เป็นหน้าที่ประชาชนจะเป็นคนให้คำตอบเองว่าประเทศนี้จะเดินไปทางไหน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image