รักชอบกัน เชียร์กันได้ไม่ว่ากัน แต่ตามความเหมาะควร สง่างาม ไม่ใช่สอพลอกันเสียจนคนถูกเชียร์เสียผู้เสียคน
แค่นายกรัฐมนตรีใส่สูทผูกเนกไทโล้ชิงช้าไม่พอ ยังไปเจอ “ร่ม” ที่แจกให้คนที่มายืนต้อนรับนายกฯ ซึ่งเมื่อกางร่มออกมาก็เห็นข้อความตัวโตเต็มตาว่า “กองหนุนลุงตู่”
นั่นยิ่งทำให้ไปกันใหญ่ !
ทำไมจึงไม่พลอยเป็นปลื้มไปกับงานอีเวนต์ชิ้นนี้
นั่นก็เพราะนายกฯตู่เคยประกาศว่า “สนใจการเมือง” และใน ครม.ของนายกฯคนนี้ก็มีคนจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา โดยที่หัวหน้าพรรคการเมือง, รองหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค ล้วนอยู่ร่วม
ในคณะรัฐมนตรีที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้า และเดินนำ
ไม่มีความรู้สึกขัดเขิน กันบ้างเลย ที่โฆษณาแฝงกับผู้บริโภค
“เงื่อนไข” การเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรม เกิดจากคนที่ไม่มีความยุติธรรม !?
เชื่อได้ว่า ถ้าเริ่มต้นจาก “ความอยุติธรรม” แม่แบบที่บิดเบี้ยวนั้นก็จะสร้างปัญหากับประเทศต่อไปอีกยาวนาน
คนที่ยอมรับในความผิดพลาดไม่ได้ คนที่ยอมรับกับความพ่ายแพ้ในเกมแข่งขันไม่ได้ ในส่วนลึกแล้วคือ คนอ่อนแอ
คนแบบนี้ชอบอาศัยทีเผลอ หรือลูกตุกติก ถ้าเป็นคนมีอำนาจ ก็มักได้มาโดยทางลัด ด้วยการฉ้อฉลหรือใช้กลโกง
อย่าบอกรักกันด้วยลมปาก
กระทั่งพวกที่บอกว่า “รักประเทศ” หรือเที่ยวปราม เที่ยวสั่งสอนผู้อื่นว่า อย่าให้ร้ายประเทศนั่นก็เหมือนกัน
อย่าเอาแต่พูด หรือทำดีด้วยปาก แต่ต้อง “หยุดพฤติการณ์” หรือการกระทำที่ทำร้ายประเทศอยู่ทุกวัน
การเลือกตั้งยังไม่รู้จะมาถึงในวันไหน การหาเสียงสร้างคะแนนนิยมทางการเมืองก็ยังทำไม่ได้ เพราะ “คสช.” ยังไม่แก้เชือกที่ผูกมัดแขนขาและยังไม่แกะพลาสเตอร์ที่ปิดปาก แต่การใส่ร้ายป้ายสี บิดเบือนข้อมูล ทำลายคู่แข่งก็ท่วมจอเสียแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทางการเมือง หรือเป็นเกมกีฬา หรือเป็นการทำงาน สิ่งที่ผู้เข้าร่วมแข่งขันต้องการเหมือนกันคือ ความซื่อตรง เท่าเทียม ยุติธรรม เที่ยงตรง และถูกต้อง
รักความยุติธรรมก็ต้องประพฤติธรรม !?!!
