บทนำ : ต้องขัดแย้งได้

บรรยากาศบ้านเมืองขณะนี้ มีการถกเถียงและตอบโต้กันมากขึ้น แต่เป็นการถกเถียงตอบโต้ที่อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ใช้ความรุนแรง อย่างกรณีมีกลุ่มบุคคลทำเพลง “ประเทศกูมี” วิจารณ์การเมืองออกมา เผยแพร่ผ่านยูทูบ มีผู้เข้าชมเกิน 20 ล้านวิว ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่รัฐจะเอาผิด ก่อนพลิกท่าที ให้ถือเป็นการแสดงออกของคนรุ่นใหม่ ก่อนที่รัฐบาลสนับสนุนให้เผยแพร่เพลงฮิพฮอพ Thailand 4.0 เพื่อตอบโต้กับเพลงประเทศกูมี มีเนื้อหากระตุ้นให้ร่วมกันพัฒนาประเทศ เผยแพร่เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ผ่านมา มียอดผู้ชมหลายแสนวิว

อีกปรากฏการณ์ได้แก่ การเดินสาย “คารวะแผ่นดิน” ของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตแกนนำ กปปส. ซึ่งเคยประกาศวางมือการเมือง ก่อนมาร่วมสนับสนุนจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย มีประชาชนเข้ามาสอบถามและกล่าวว่าไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวของนายสุเทพ และที่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 5 พ.ย. มีชายถือนกหวีดสัญลักษณ์การต่อสู้ของ กปปส. ไปคืนให้นายสุเทพที่มาเดินสายหาเสียง โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ อย่างไรก็ตาม แม้มีแรงต้าน แต่ก็มีเสียงเตือนและห้ามปราม อาทิ นายอาทิตย์ อุไรรัตน์ ที่สนับสนุน กปปส.มาก่อน แนะว่า นายสุเทพควรเลิกเดิน แต่ก็มีผู้สนับสนุนนายสุเทพ ให้กำลังใจผ่านโซเชียลมีเดียหลายคนด้วยกัน

ยังมีปรากฏการณ์ที่แม้จะดูเหมือนเป็นเรื่องขัดแย้ง ได้แก่ การหยั่งเสียงเลือกหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีข่าวขลุกขลักในระบบลงคะแนน มีการโต้แย้ง แต่กระบวนการจะเดินต่อไป จนมีการประชุมใหญ่และลงมติเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารในที่สุด ทั้งหมดนี้ เป็นการเมืองระดับต่างๆ ซึ่งมีความขัดแย้ง ความเห็นต่างในตัวเอง ต่างฝ่ายต่างแสดงจุดยืน สุดท้ายกระบวนการนี้ จะทำให้เกิดข้อยุติที่ทุกฝ่ายต้องยอมรับ ขณะนี้ ประเทศไทยกำลังกลับไปสู่การเมืองปกติ สิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นก็คือ การเมืองเป็นเรื่องของความขัดแย้งที่ยุติด้วยเหตุผลและเสียงข้างมาก จึงไม่ควรบิดเบือนว่า การเมืองต้องเป็นไปอย่างสงบ ไม่มีความขัดแย้ง ไม่มีความเห็นต่าง การเมืองที่ห้ามขัดแย้ง ห้ามเห็นต่างคือการเมืองเผด็จการ และความสงบต้องเกิดจากความยอมรับกฎกติการ่วมกัน มิใช่สงบเพราะความหวาดกลัวการใช้อำนาจที่โต้แย้งไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image