ที่มา | คอลัมน์ "นิวส์รูมวิเคราะห์" |
---|---|
ผู้เขียน | พันธศักดิ์ รักพงษ์ |
ต้องยอมรับว่าความเคลื่อนไหวกลุ่มการเมืองที่ฮือฮาช่วงแรกของกระแสโยกย้าย-ดูดอดีต ส.ส.คงหนีไม่พ้น “กลุ่มสามมิตร” ของ สมศักดิ์ เทพสุทิน – สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ – อนุชา นาคาศัย ทีเจอแรงดึงดูดจากพลังอำนาจของ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ช่วงแรกๆ ที่กลุ่มนี้เดินสายอย่างคึกคัก ตระเวณไปพบปะอดีต ส.ส.จากพรรคต่างๆแทบทุกภาค สร้างสีสันให้แวดวงการเมือง
หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าหากพลังประชารัฐมีแรงดึงดูดจริง ทำไมวันนี้กลุ่มสามมิตรยังดึงเกมมายอมร่วมหอลงโรงเสียที ปล่อยเวลาให้ล่วงเลยจนใกล้เดดไลน์ 26 พ.ย.ที่อดีต ส.ส.ต้องสมัครสมาชิกเข้าสังกัดพรรค เพราะหลังจากนั้นอาจเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วันหมดสิทธิลงสมัคร ส.ส.ตามกฎหมายฉบับใหม่
ในขณะที่กลุ่มการเมือง หรืออดีต ส.ส.จากกลุ่ม หรือพรรคอื่นๆ มีการขยับขยายโยกย้ายกันเสร็จสรรพเรียบร้อยไปตั้งแต่ไก่โห่
แม้ล่าสุด “ธนกร วังบุญคงชนะ” โฆษกกลุ่มสามมิตร ออกมายืนยันว่า กลุ่มสามมิตรจะนำสมาชิกทั้งหมดเข้าร่วมงานกับ พปรช.อย่างเป็นทางการในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้
ความจริงตัวประสานดึงอดีตส.ส.เป็นหน้าที่ของ “พี่ใหญ่” ผู้กุมอำนาจ ที่เรียกบรรดาอดีตส.ส.มากล่อม พร้อมเติมหัวเชื้ออัดฉีดยาดีให้กระชุ่มกระช่วยกันเล็กๆน้อยๆจากนั้นก็หายเงียบไป
แต่ประเด็นคือ แกนนำกลุ่มสามมิตรต้องการหัวเชื้อดีๆ น้ำมันหล่อลื่นเยอะๆ ส่วนการบริหารนั้น ขอจัดการกันเองภายในกลุ่ม เพราะลำพังจะให้ “เสี่ยสุริยะ” ดูแลสมาชิกทั้งหมดคงผิดเงื่อนไข เพราะธรรมชาติพรรคต้องเป็นผู้ดูแลกลุ่ม หรือ สมาชิก
ความจริงแล้วกลุ่มสามมิตรที่คาราคาซังจนทุกวันนี้ เพราะ พปชร.ยังติดภาพหลอน “พรรคประชาราช-กลุ่มมัชฌิมา -ประชัย เลี่ยวไพรัตน์”
ภาพของกลุ่มมัชฌิมาของ สมศักดิ์ เทพสุทิน ลงทุนชิงตัว “ประชัย เลี่ยวไพรัตน์” นายทุนใหญ่ของ เสนาะ เทียนทอง จากพรรคประชาราช จนเกิดวาทะสะท้านการเมืองจากปากป๋าเหนาะว่า “อนุบาลการเมือง”
พร้อมๆ กับความล่มสลายของพรรคประชาราช และอาการสะบักสะบอมของ “ประชัย” ที่ถูกรีดจนแห้ง ขณะที่สมาชิกกลุ่มมัชฌิมาที่อู่ฟู่ แม้บางคนจะสอบตกในการเลือกตั้งครั้งนั้น
ภาพหลอน “ประชาราช-มัชฌิมา-ประชัย” คือบทเรียนการเมืองชั้นดีที่ “พลังประชารัฐ” ยังไม่ผลีผลาม แม้พร้อมจะร่วมหอลงโรงกับกลุ่มสามมิตร แต่วันนี้น้ำมันหล่อลื่นก็ยังไม่ออกจากหัวจ่ายของโรงงานใหญ่เสียที….